MPG ลุยเพิ่มทุน 244 ล้านหุ้น ขาย RO สัดส่วน 4:1 ราคา 0.18 บ./หุ้น นำเงินเสริมสภาพคล่อง

บริษัท เอ็มพีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MPG เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 492,581,229 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,470,334,913 บาท เป็น ทุนจดทะเบียนใหม่ 977,753,684 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 492,581,229 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

นอกจากนี้ มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 492,581,229 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,470,334,913 บาท เป็น ทุนจดทะเบียนใหม่ 977,753,684 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 492,581,229 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท

รวมทั้งมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 244,438,421 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่ (Right Offering) โดยกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการจองซื้อ และได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ ในราคาขาย 0.18 บาทต่อหุ้น รวมมูลค่าไม่เกิน 43,998,915.78 บาท โดยผู้ถือหุ้นเดิมมีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นของตนเท่านั้น ไม่สามารถจองเกินสิทธิได้

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีขาดทุนสะสมปรากฏในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทจึงสามารถกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทต่ำกว่ามูลค่าที่ตราไว้ของบริษัท โดยบริษัทจะต้องปฏิบัติตามมาตรา 52 ของพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) โดยกำหนดวันจองซื้อและรับชาระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 16 – 20 ธันวาคม 2562 พร้อมทั้งมีมติอนุมัติกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2562 ในวันที่15 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14.00 น.

โดยบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แก่บริษัท ทั้งในด้านการดำเนินงานและด้านเงินทุน โดย บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และถ้าเงินเพียงพอจะนำไปใช้ในการรองรับการขยายธุรกิจต่อไป