SET ปิดวูบ 10 จุดเซ่นปัจจัยลบนอก-ในประเทศ “เทรดวอร์” ไม่แน่นอน-งบฯแบงก์ Q3/62 ชะลอตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,613.64 จุด ลบ 10.45 จุด หรือ 0.64% มูลค่าการซื้อขาย 4.22 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ด้าน น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงต่อเนื่องรับแรงกดดันหลักจากหุ้นกลุ่มแบงก์และกลุ่มโรงกลั่นที่ถอยลงมา

โดยกลุ่มแบงก์อยู่ในช่วง Preview ผลประกอบการไตรมาส 3/62 อาจไม่สดใส เนื่องจากแบงก์ส่วนใหญ่คงจะ Conservative ไว้ก่อนทำให้ตั้งสำรองสูงกดดันกำไรไม่ฟื้น อีกทั้งสินเชื่อยังไม่เติบโตมากนัก

ส่วนกลุ่มโรงกลั่นรับผลค่าการกลั่นปรับลง 20% เมื่อเทียบสัปดาห์ต่อสัปดาห์ หลังจากซาอุดีอาระเบียกลับมาผลิตน้ำมันได้เหมือนเดิม นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติก็ยังคงขายสุทธิหุ้นไทยและยังไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นด้วย

ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้ต่างก็ปรับตัวลงทุกตลาด เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ติดลบกว่าร้อยจุด คงเป็นความกังวลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังมีความไม่แน่นอน อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาชะลอลง โดยล่าสุด PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯต่ำสุดในรอบ 10 ปี เห็นภาพการชะลอตัวชัดมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดยังอ่อนแอ แต่หากดัชนีฯลงมาบริเวณแนวรับแรก 1,610 จุด และไม่มีปัจจัยลบร้ายแรงก็มีสิทธิที่ดัชนีฯจะรีบาวด์ขึ้นได้

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,610 ถัดไป 1,590-1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,261.18 ล้านบาท ปิดที่ 152.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย  1,913.31 ล้านบาท ปิดที่ 73.00 บาท ลดลง 1.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย  1,883.33 ล้านบาท ปิดที่ 45.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

SCB มูลค่าการซื้อขาย  1,612.77 ล้านบาท ปิดที่ 115.00 บาท ลดลง 2.50 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย  1,587.67 ล้านบาท ปิดที่ 408.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง