“แคร์รี ลัม” ออกก.ม.ฉุกเฉินห้ามผู้ประท้วงในฮ่องกงสวมหน้ากาก หวังติดตามผู้ก่อเหตุง่ายขึ้น

นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง จัดการแถลงข่าวในวันนี้ โดยได้ประกาศการห้ามสวมหน้ากากในกลุ่มผู้ประท้วงอย่างเป็นทางการหลังจากที่สื่อได้รายงานข่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งถึอเป็นการออกกฎหมายฉุกเฉินครั้งแรกนับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีนในปี 2540

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงในการประท้วงช่วงปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาแสดงพลังต่อต้านกฎหมายดังกล่าว โดยหน้ากากถือเป็นเครื่องป้องกันใบหน้าของผู้ประท้วงที่กลัวรัฐบาลออกหมายจับหากสามารถระบุตัวตนของผู้ประท้วงได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนได้กดดันให้สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก ปลดพนักงานที่ออกมาร่วมชุมนุม

อนึ่ง ที่ผ่านมาผู้ประท้วงจำนวนมากต่างสวมหน้ากากเพื่อปกปิดใบหน้าและตัวตน ซึ่งคำสั่งห้ามสวมหน้ากากนี้จะทำให้ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ประท้วงที่ก่อเหตุรุนแรงได้ง่ายขึ้น

โดยมาตรการล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่มีผู้ประท้วงซึ่งเป็นนักศึกษาวัย 18 ปี คือนาย Tsang Chi-kin ถูกตำรวจยิงเข้าที่หน้าอกด้วยกระสุนจริง ระหว่างการประท้วงในย่านซุนวาน ทางตอนกลางของเกาะฮ่องกงในวันอังคาร นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้บาดเจ็บมากกว่า 100 คนในวันเดียวกัน ซึ่ง 30 คนในนั้นเป็นตำรวจปราบจลาจล และตำรวจจับกุมผู้ประท้วงเกือบ 300 คน โดยเวลานี้นักศึกษาที่ถูกยิงยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยนาย Tsang Chi-kin ถูกตั้งข้อหาก่อความวุ่นวาย ซึ่งอาจถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี

ขณะที่สำนักงานตำรวจฮ่องกงออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ ยืนยันว่าตำรวจปราบจลาจลตัดสินใจยิงผู้ประท้วงเนื่องจากเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงอันตราย และว่าการใช้อาวุธร้ายแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลและกระทำได้ตามกฏหมาย

อย่างไรก็ดี นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจฮ่องกงใช้กระสุนจริงกับผู้ประท้วง ที่ออกมาชุมนุมกันตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และการใช้กระสุนจริงของตำรวจฮ่องกงแต่เดิมนั้นจะใช้ยิงขึ้นฟ้าเพื่อสลายการชุมนุมเท่านั้น แต่จะใช้กระสุนยางยิงเข้าใส่ผู้ชุมนุม