BSM เจรจา KCM-บจ. 1 รายเป็นตัวแทนขายคาดสรุป Q3/58
BSM เจรจา KCM-บจ. 1 รายเป็นตัวแทนขายคาดสรุป Q3/58 ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 100 ล้านบาท และมีแผนดันบ.ลูกเข้า mai ในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจา บริษัท เค.ซี.เมททอลชีท จำกัด (มหาชน) หรือ KCM เป็นตัวแทนจำหน่ายคาดได้ข้อสรุปใน 1-2 เดือนนี้ ซึ่งทาง KCM มีสาขาทั้งในภาคเหนือและภาคอีสานหลายสาขา
รวมถึงอนาคตแผนของ KCM ก็จะมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องซึ่งมีเป้าหมายที่จะขายสาขาให้ครบ 100 แห่ง ในระยะเวลา 3 ปี ซึ่งบริษัทจะให้ KCM เป็นตัวแทนจำหน่ายที่จะกระจายสินค้าในส่วนของประตูหน้าต่างไปยังภาคเหนือและภาคอีสานทั้งหมด
สำหรับความร่วมมือที่มากกว่านี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาแต่ยังไม่ได้บทสรุปที่ชัดเจน โดยคาดว่าภายใน 1-2 เดือนนี้ก็จะได้ข้อสรุปอย่างชัดเจนออกมาว่ารูปแบบในความร่วมมือจะเป็นอย่างไร โดยอาจจะให้เข้ามาถือหุ้นในบริษัทย่อย ชื่อบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมที่จะนำเรื่องเข้าประชุมบอร์ดในวันอังคาร ที่ 21 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการเจรจากับพันธมิตรอีก 1 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในเขตกรุงเทพ และปริมณฑล โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/58 นี้ โดยอาจจะเป็นรูปแบบที่ใกล้เคียงกับที่ทำกับ KCM ที่จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ บริษัท ดีแอนด์ดับบลิว (เอเชีย) จำกัด ที่ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนอยู่ 30 ล้านบาท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ราว 100 ล้านบาท และตั้งเป้าปี 59 จะมีรายได้ 200 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตจะมาจากพันธมิตรทั้ง 2 รายที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขาย
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ไว้ที่ 600 ล้านบาท หรือเติบโต 20% และกำไรจะเติบโตไปตามรายได้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และบริษัทเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีการปรับปรุงอาคารสำนักงานโรงพยาบาล และ ศูนย์สุขภาพต่างๆ และคาดว่าในไตรมาส 3 จะสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นได้
สำหรับทิศทางผลประกอบในช่วงครึ่งปีหลังมั่นใจว่าดีกว่าครึ่งปีแรก ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร เนื่องจากตลาดที่เป็นคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างใกล้จบโครงการเป็นช่วงที่ต้องใช้สินค้าของบริษัทพอดี ส่วนตลาดออฟฟิศ ก็ยังมีการสั่งสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการปรับปรุงตึกออฟฟิศอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดประตู หน้าต่าง ที่มีสินค้าระดับไฮเอนด์ บริษัทฯก็ได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เข้าสู่ลูกค้าทุกกลุ่มมากขึ้นด้วย