จับตา! GSTEEL ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนแปลงหนี้เป็นทุนกว่า 9 พันล้าน 11 ต.ค.นี้

จับตา! GSTEEL ชงผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนแปลงหนี้เป็นทุนกว่า 9 พันล้าน 11 ต.ค.นี้ หวังรักษาสถานะบจ.-ธุรกิจเดินหน้าต่อ


นางสาวสุนทรียา วงศ์ศิริกุล กรรมการบริหาร บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ GSTEEL เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัทว่า บริษัทมีความพยายามที่จะหาแนวทางในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้บริษัทกลับมาดำเนินธุรกิจและดำรงสถานะบริษัทจดทะเบียนต่อไป

โดยในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 11 ตุลาคม 2562 นี้ บริษัทเตรียมที่จะเสนอให้ที่ประชุมออกเสียงสนับสนุนโครงการแปลงหนี้เป็นทุน ให้แก่เจ้าหนี้รวมจำนวน 8 ราย โดยมียอดหนี้รวมที่จะทำการแปลงเป็นทุนในครั้งนี้ จำนวนประมาณ 9,277 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48.99 ของหนี้สินทั้งหมด ราคาแปลงหนี้เป็นทุน 0.19 บาทต่อหุ้น ส่วนดอกเบี้ยคงค้างและภาษีหัก ณ ที่จ่าย จะได้รับการปลดหนี้ เป็นจำนวน 5,032 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากโครงการแปลงหนี้เป็นทุน อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อทุน เปลี่ยนแปลงจาก ติดลบ 4.89 พลิกกับมาบวก 1.79 ขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้น เปลี่ยนแปลงจาก ติดลบ 3,850 ล้านบาท พลิกกลับมาบวกเป็น 5,377 ล้านบาท

โดยงบการเงินเฉพาะกิจการ สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2562 บริษัทมีบันทึกหนี้สินรวมสูงมากจำนวน 18,833 ล้านบาท ในขณะที่มีส่วนทุนติดลบ 3,850 ล้านบาท ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นบริษัทไม่เหมาะสมที่จะดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาให้บริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นบริษัทจดทะเบียน

นางสาวสุนทรียา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาบริษัทพยายามหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 ไม่อนุมัติการเข้าทำรายการแปลงหนี้เป็นทุน ต่อมาในปี 2561 บริษัทหาทางแก้ไขในการรักษากิจการจากความเสี่ยงจากการถูกยึดทรัพย์จากเจ้าหนี้ บริษัทจึงได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง แต่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอ และปี 2562 บริษัทได้เจรจากับเจ้าหนี้รายใหญ่บางราย เพื่อขอให้ทำการแปลงหนี้เป็นทุน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาส่วนทุนที่ติดลบตั้งแต่ปี 2560 ให้กลับมาเป็นบวกโดยเร็ว ก่อนที่หุ้นของบริษัทอาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

นอกจากนี้ บริษัท จี สตีล จำกัด (มหาชน) ขอให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาทั้ง 3 เงื่อนไข ได้แก่ (1) การแปลงหนี้เป็นทุน ที่ราคา 0.19 บาทต่อหุ้น (2) การขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นของกิจการ (whitewash) และ (3) การแต่งตั้งกรรมการใหม่ 5 ท่านเข้าร่วมบริหารงานของบริษัท เพื่อให้โครงการแปลงหนี้เป็นทุนประสบความสำเร็จ

Back to top button