กฟผ.วางแผนรับมือแหล่งก๊าซ JDA หยุดผลิต 21-25 ก.ค.มั่นใจไร้เหตุไฟดับ

กฟผ.วางแผนรับมือแหล่งก๊าซ JDA หยุดผลิต 21-25 ก.ค.มั่นใจไร้เหตุไฟดับ


นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า กรณี บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งแผนการหยุดซ่อมแหล่งก๊าซธรรมชาติพัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (JDA-A18) ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2558 รวม 5 วัน เพื่อทำการติดตั้งทางเชื่อมระหว่างแท่นผลิตก๊าซธรรมชาตินั้น มีผลให้โรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 2 ไม่สามารถเดินเครื่องได้ รวมทั้งต้องมีการเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิง สำหรับเดินเครื่องโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 จากก๊าซธรรมชาติเป็นน้ำมันดีเซล

ดังนั้น กฟผ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงมีมาตรการและแผนการรองรับอย่างเต็มที่ทั้งด้านผลิตไฟฟ้า ระบบส่งไฟฟ้า และเชื้อเพลิง รวมทั้งได้มีการซักซ้อมหากเกิดกรณีวิกฤติซ้ำซ้อนร่วมกับกระทรวงพลังงาน โดยมีความพร้อมของระบบป้องกัน และระบบป้องกันพิเศษไว้รองรับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว

สำหรับมาตรการรองรับของ กฟผ. 3 ด้าน คือ 1.ด้านระบบผลิตไฟฟ้า โดยโรงไฟฟ้าจะนะชุดที่ 1 พร้อมเดินเครื่องด้วยน้ำมันดีเซล ตรวจสอบโรงไฟฟ้าภาคใต้ทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน งดการหยุดเครื่องบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าภาคใต้ในช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และประสานการไฟฟ้ามาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน 2.ด้านระบบส่ง ทำการตรวจสอบสายส่งและอุปกรณ์สำคัญในภาคใต้ให้พร้อมใช้งานก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และหยุดการบำรุงรักษาระบบส่งภาคใต้ช่วงหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ และ 3.ด้านเชื้อเพลิง ได้สำรองน้ำมันให้เพียงพอเต็มความสามารถจัดเก็บก่อนเริ่มหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ โดยโรงไฟฟ้ากระบี่ได้จัดเก็บน้ำมันเตา 25.4 ล้านลิตร และโรงไฟฟ้าจะนะได้จัดเก็บน้ำมันดีเซล 20 ล้านลิตร รวมทั้งเตรียมทีมงานติดตามสถานการณ์ ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ตลอดจนมีแผนสำรองพร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้ทันที

นอกจากนี้ กฟผ.ได้จัดทำเว็บไซต์เพื่อติดตามสถานการณ์ตามเวลาจริง (Real-time) สามารถเปิดดูได้ทาง www.sothailand.com/jdashutdown/ ด้านกระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

รวมทั้ง กฟผ. ได้ร่วมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันประหยัดพลังงาน 3 ป. คือ 1.ปิดไฟฟ้าดวงที่ไม่จำเป็น 2.ปรับแอร์ 25 องศา 3.ปลดปลั๊กไฟเมื่อเลิกใช้ พร้อมใช้มาตรการลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response : DR) จากภาคเอกชน ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (18.00-22.00 น.) ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงเชื่อถือได้ของระบบผลิตไฟฟ้าโดยรวมของประเทศเป็นสำคัญ

อนึ่ง กฟผ. และกระทรวงพลังงาน ได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้านทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีไฟฟ้าดับจากการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติในครั้งนี้ แต่หากเกิดไฟฟ้าดับขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกเพราะอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น ลมพายุฝนฟ้าคะนอง ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ กฟผ. โทร. 1416 และคอลเซ็นเตอร์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร. 1129

Back to top button