สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ต.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ต.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับมุมมองบวกที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามการค้า โดยปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิป เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งในกลุ่มนี้มีการลงทุนจำนวนมากในประเทศจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,827.64 จุด เพิ่มขึ้น 57.44 จุด หรือ +0.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,006.72 จุด เพิ่มขึ้น 20.52 จุด หรือ +0.69% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,162.99 จุด เพิ่มขึ้น 73.44 จุด หรือ +0.91%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) ขณะที่บริษัทเอสเอพี ซึ่งเป็นบริษัทซอฟท์แวร์ของเยอรมนี พุ่งขึ้น หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2562 เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.61% ปิดที่ 394.22 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,648.35 จุด เพิ่มขึ้น 12.11 จุด หรือ +0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,747.96 จุด เพิ่มขึ้น 114.36 จุด หรือ +0.91% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.64 จุด เพิ่มขึ้น 13.07 จุด หรือ +0.18%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit) แม้ EU ยังไม่ได้ตอบรับต่อข้อเสนอของรัฐบาลอังกฤษเกี่ยวกับการขยายเส้นตาย Brexit จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ก็ตาม

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,163.64 จุด เพิ่มขึ้น 13.07 จุด หรือ +0.18%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งรอดูสัญญาณจากบรรดาชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในระยะนี้ ก่อนที่การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในเดือนธ.ค.ที่กรุงเวียนนา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 58.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,488.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.4 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 17.602 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 892.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,725.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากมุมมองบวกที่ว่า อังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) แบบไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit)

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2966 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2945 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1146 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1160 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6864 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6853 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.59 เยน จากระดับ 108.45 เยน และแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9855 ฟรังก์ จากระดับ 0.9854 ฟรังก์ อย่างไรก็ดี ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3084 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3120 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button