Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

สรุปภาวะตลาดเช้า

SET Index ปรับลดลง -0.81 จุด (-0.05%) ปิดภาคเช้าที่ 1,630.65 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34,088.96 ล้านบาท

Most Positive Impact: AOT (+1.36 จุด), PTTEP (+1.13 จุด), EGCO (+0.85 จุด)

Most Negative Impact: KBANK (-1.25 จุด), CPALL (-0.85 จุด), SCB (-0.81 จุด)

รัฐบาลปฎิเสธข่าวที่จะปลดนางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของผู้ประท้วงทำให้ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐบาลฮ่องกงประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลจากการชุมนุมประท้วงรัฐบาลส่งผลให้เศรษฐกิจฮ่องกงมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี อย่างไรก็ดีมองการประท้วงในฮ่องกงส่งผลให้กลุ่มท่องเที่ยวของไทยได้รับประโยชน์

แนวโน้มตลาดบ่าย

SET Index ยังคงมี upside จำกัด เนื่องจากตลาดรอปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ การลงนามข้อตกลงการค้าบางส่วนระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยเรายังมองว่าทั้งคู่จะเร่งลงนามข้อตกลงกันเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจโลกชลอตัวลงจนถึงขั้นถดถอย โดยวันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญให้ติดตาม คือ PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน และสหรัฐฯ

บ่ายนี้คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,625-1,635 จุด

กลยุทธ์การลงทุน เน้นลงทุนในกลุ่มที่มีปัจจัยหนุน และกำไร 2H19 มีแนวโน้มดี

1) กลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ CPALL BTS ORI TFFIF STEC

2) กลุ่มปันผลสูง JASIF LH TISCO TCAP

3) กลุ่มสื่อสารได้ประโยชน์จากการแข่งขันลดลง (รายได้เพิ่ม ต้นทุนลด) TRUE DTAC ADVANC INTUCH

4) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก IMO 2020 TOP PRM BGC

5) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนฟื้น AOT ERW MINT CENTEL

6) ปัจจัยเฉพาะตัว CPF GUNKUL TPCH JAS SAWAD OSP TKN MEGA TU GFPT BDMS IVL

ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญ วันนี้ ยูโรโซนจะรายงาน PMI ภาคการผลิต เดือน ต.ค. (คาด 46.0) รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของ ECB (คาดคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ -0.50%) ฝั่งสหรัฐฯจะมีรายงาน PMI ภาคการผลิต เดือน ต.ค. (คาด 50.3) PMI ภาคบริการ (คาด 50.9) และยอดซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.ย. (คาด -0.7% MoM)

หุ้นแนะนำ RBF CK