8 หุ้น ”โรงพยาบาล” ตัวท็อป! โบรกฯฟันธง Q3/62 กำไรโตเด่นรับไฮซีซั่น-ปัจจัยบวกเพียบ
8 หุ้น ”โรงพยาบาล” ตัวท็อป! โบรกฯฟันธง Q3/62 กำไรโตเด่นรับไฮซีซั่น-ปัจจัยบวกเพียบ
ช่วงนี้หุ้นโรงพยาบาลกลับมาวิ่งคึกอีกครั้ง ดังนั้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลหุ้นกลุ่มดังกล่าวมานำเสนอนักลงทุนโดยได้รวบรวมบทวิเคราะห์จากโบรกฯเกอร์ชั้นนำของไทยอาทิ บล.โนมูระ พัฒนสิน,บล.เออีซี,บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส,บล.กรุงศรี,บล.ทิสโก้ และบล.เคทีบี (ประเทศไทย) ซึ่งมีปัจจัยและราคาเป้าหมายของหุ้นเด่นกลุ่มเอาไว้ได้อย่างน่าสนใจ
ทั้งนี้จากความเห็นส่วนใหญ่มองว่ากลุ่มโรงพยาบาลเริ่มเข้าสู่ช่วง High Season อย่างไรก็ดี ยังมองว่ากลุ่มการแพทย์มีโอกาส outperform ตามผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2562 และในไตรมาส 3/62 จะเป็นไตรมาสดีของหลายโรงพยาบาล โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลาง อาทิ CHG,BH,THG,RJH,RPH
อีกทั้งการเติบโตตลาด Medical Tourism,อัตรากำไรสูงขึ้นจากการเพิ่มศักยภาพรักษาโรคเฉพาะทาง และการเติบโตของเศรษฐกิจ/กำลังซื้อ,การเข้าสู่สังคมสูงวัย,การขยายตัวของระบบประกันสุขภาพ นอกจากนี้ทางการเตรียมฟรี Visa 90 วัน สำหรับผู้ป่วย US-JP เข้าไทยคาดเป็นบวกต่อ BCH,BDMS,BH ซึ่งบทวิเคราะห์ระบุไว้ดังนี้
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ไตรมาส 3/62 หุ้นกลุ่มการแพทย์ (-8%) ปรับลงกว่า SET (-5%) และซื้อขายค่าเฉลี่ย PE อดีต มองว่ามีสาเหตุจากกำไรรวม ครึ่งแรกปี 2562 (-6% y-y -9%h-h) ลดลงเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้โตแผ่วสวนทางต้นทุนดำเนินงานสูงขึ้น และมีปัจจัยกดดันจากมาตรการภาครัฐ
อย่างไรก็ดี ยังมองว่ากลุ่มการแพทย์มีโอกาส outperform ตามผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2562 และในไตรมาส 3/62 จะเป็นไตรมาสดีของหลายโรงพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดกลาง หุ้นเด่นเลือก CHG ทยอยสะสมหุ้น BH, THG
นอกจากนี้การเติบโตตลาด Medical Tourism, อัตรากำไรสูงขึ้นจากการเพิ่มศักยภาพรักษาโรคเฉพาะทาง และการเติบโตของเศรษฐกิจ/กำลังซื้อ, การเข้าสู่สังคมสูงวัย,การขยายตัวของระบบประกันสุขภาพ บวกกับกลุ่มโรงพยาบาลเข้าสู่ High Season และทางการเตรียมฟรี Visa 90 วัน สำหรับผู้ป่วย US-JP เข้าไทย จิตวิทยาบวกต่อ BCH,BDMS,BH
สำหรับ BCH (TP20F 18.7*): Support 15.5/15.3 Resistant 16.0/16.3 Earnings Outlook: ผลการดำเนินงานจะเข้าช่วง High season คาดกำไรไตรมาส3/62 ที่ 397 ลบ. เพิ่ม +11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +63% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ขับเคลื่อนจาก จำนวนผู้ป่วยทั้งเงินสดและประกันสังคม, รวมถึง World Medical ที่จัดการปัญหาระยะสั้นเสร็จสิ้น และรายได้เป็น New high และประเมินกำไรปี 2562-2563 +10%/+20% ตามลำดับ
Valuation: เป็นหุ้น Defensive ที่เหมาะสมกับช่วงภาวะปัจจุบัน ราคาหุ้นซื้อขาย Valuation ที่ยังมีส่วนลด PER20F ที่ 27.5x ต่ำกว่ากลุ่มฯที่ 40x
Catalyst: เป็นกลุ่มพักเงินที่ดีในภาวะตลาดผันผวน กอปรกับ เข้า High season งวดไตรมาส3/62 และมี Catalyst จากฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมากังวล +ภาพระยะกลางมีประเด็นเก็งกำไร จากแผนปรับเพิ่มค่ารักษาผู้ป่วยประกันสังคม
บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดกลางที่คาดกำไรช่วงไตรมาส 3/62 โตเด่น เข้าสู่ High Season: BCH (ช่วงไตรมาส 3/62 คาดกำไรโตทั้งเทียบไตรมาสก่อนหน้า,เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหนุนด้วยการเข้าสู่ช่วงHigh Season บวกกับการบันทึกรายได้ส่วนเพิ่มของภาระเสี่ยง
ขณะที่ผู้ป่วยตะวันออกกลางคาดกลับมาฟื้นตัวหลังมีการเพิ่มชม.การทำงานของแพทย์ด้านเบาหวาน, CHG (ช่วงครึ่งหลังปี 2562 คาดกำไรโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยสัญญาณฟื้นตัวจาก โรงพยาบาลที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304อินเตอร์และรพ.รวมแพทย์ฉะเชิงเทราบวกกับอาจมีการขอเพิ่มสัดส่วนโควต้าประกันสังคมหลังมีผู้ประกันตนราว 432,640 คน (จากโควต้า 440,000 คน)
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาด SET ซื้อขายในกรอบ 1610-1650 จุด แนวต้านเป็น 1640-1650 จุด แนวรับอยู่ที่ 1600-1590 จุด การเข้าเก็งกำไรควรเข้าไว-ออกไว กลยุทธ์ คือ เลือกลงทุนทยอยสะสม เป็นรายกลุ่มและรายตัว (Selective) ตาม Theme เป้าหมายดัชนีปีนี้ 1680 ปีหน้า 1725 จุด อาทิ กลุ่มการแพทย์ไตรมาส 3/62 ฤดูกาลดีที่สุดในรอบปี อากาศผันผวนสูง – CHG,RJH,RPH
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CHG (ซื้อ/เป้าสูงสุด IAA Consensus 2.7) คาดผลกำไรผ่านจุดต่ำสุดของปีมาแล้ว และจะเห็นกำไรที่เร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/62 โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ประกันสังคมที่ฟื้นตัว โรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง ขาดทุนลดลง และยังมี Upside ในการปรับค่ารักษาพยาบาลกลุ่มลูกค้าประกันสังคมเพิ่มคล้ายกับ BCH (ค่ารักษาส่วนประกันสังคมจะมีการปรับทบทวนราคาทุกๆ 2 ปี โดยปรับครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2561)
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำให้ “ซื้อ” BDMS โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 29 บาท จากรายได้ และ EBITDA ที่เพิ่มขึ้น หนุนโดยโรงพยาบาลใหม่ และ Movenpick Wellness Resort ของ BDMS และคาดว่าอัตรากำไรของ BDMS จะเพิ่มขึ้นในปี 2563 จากค่าใช้จ่ายในการเปิดโรงพยาบาลใหม่รับรู้ไปแล้วในปี 2562
คาดว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้น 15-16% สำหรับปี 2562-2563 หลังค่าใช้จ่ายในการเปิดโรงพยาบาลใหม่ และ Movenpick รับรู้ไปแล้วในปี 2562 ในขณะที่ส่วนต่อขยายของโรงพยาบาลทั้งส่วนของญี่ปุ่น และ Bangkok International จะได้ประโยชน์จากจำนวนห้องที่เพิ่มขึ้น และได้ประโยชน์จากการขายประกันทำให้เชื่อว่าปัจจัยกดดันในระยะสั้นจะถูกชดเชยด้วยลูกค้าประกันที่เพิ่มขึ้น
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า RPH (ซื้อ / 8.40 บาท) ผู้นำโรงพยาบาลเอกชนในขอนแก่น ที่มีอัตราการเติบโตสูงเริ่มต้นให้คำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 8.40 บาท อิง 2020E PER ที่ 37.1x เทียบเท่า (-0.5SD below 3-yr average PER) เราชอบความเป็นผู้นำโรงพยาบาลเอกชนในขอนแก่น ซึ่งมี Market share มากที่สุด อีกทั้งผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน ไตรมาส2/62 และคาดว่ากลับมาเติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3/62
โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส3/62 ที่ 29 ล้านบาท (+228%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +76%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) หนุนโดยรายได้ที่ 204 ล้านบาท (+33%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +8%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) จาก High season และการระบาดของไข้หวัดใหญ่และไข้เลือดออกที่รุนแรง และอัตรากำไรที่สูงขึ้น
สำหรับปี2563ประเมินกำไรสุทธิที่ 96 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด +98%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน จาก Capacity ที่เพิ่มขึ้น โดยรับรู้ผลประกอบการของโรงพยาบาลใหม่เต็มปี และคาดอัตรากำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่ในปี 2020E คาดกำไรจะยังคงเติบโตในระดับสูงที่ 29% ปัจจุบัน RPH ซื้อขายที่ 2020E PER ที่ 31.0x ซึ่งราคาในปัจจุบันยังน่าสนใจ เนื่องจากมี 2020E PER to growth (PEG) อยู่ที่ 1.31x ต่ำกว่า peers ซึ่งอยู่ที่ 2.45x
ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน