แรงขายหุ้นแบงก์ฉุด SET ปิดวูบ 10 จุด มูลค่าซื้อขายทะลุ 7 หมื่นลบ.ในรอบ 1 เดือน
แรงขายหุ้นแบงก์ฉุด SET ปิดวูบ 10 จุด มูลค่าซื้อขายทะลุ 7 หมื่นลบ.ในรอบ 1 เดือน โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,620.97 จุด ลบ 10.49 จุด หรือ 0.64% มูลค่าการซื้อขาย 7.03 หมื่นล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,620.97 จุด ลบ 10.49 จุด หรือ 0.64% มูลค่าการซื้อขาย 7.03 หมื่นล้านบาท
10 หุ้นกดดัชนีวันนี้
ด้านนายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงแรงเกินคาด อ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากตลาดบ้านเราได้รับแรงฉุดจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ ภายหลังจากที่ KBANK ได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปีหน้าออกมาแล้วดูไม่ดี ทำให้คาดว่าแบงก์อื่นก็จะประกาศเป้าหมายทางการเงินปีหน้าไม่ดีเช่นเดียวกัน ทำให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมาฉุดดัชนีฯราว 6-7 จุด
ขณะที่หุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มโรงไฟฟ้า ยังช่วยประคองตลาดฯไว้ จากที่ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี ซึ่งตรงนี้อาจมีเม็ดเงินจากกลุ่มแบงก์โยกเข้ามาในหุ้นจำพวก Defensive ก่อน เพื่อความปลอดภัยในการลงทุน
อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเฝ้าติดตามความคืบหน้าการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit), สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดฯคาดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน และอาจได้เห็นการพักตัวบ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,635 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท ลดลง 11.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,686 ล้านบาท ปิดที่ 93.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,569 ล้านบาท ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง 7.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,669 ล้านบาท ปิดที่ 78.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,628 ล้านบาท ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
ตลาดหุ้นเอเชีย