“โกลเบล็ก” มองหุ้นไทยผันผวน กรอบ 1,585 – 1,615 จุด แนะลงทุนกลุ่ม “Defensive-ยีลด์เกิน 5%
"โกลเบล็ก" มองหุ้นไทยผันผวนต่อกรอบ 1,585 - 1,615 จุด แนะลงทุนหุ้น “Defensive ชูยีลด์เกิน 5%
ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยว่ายังมีความผันผวนในช่วงขาลงต่อเนื่อง เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน และกังวลกับกรณีที่สหรัฐสั่งระงับสิทธิพิเศษทางภาษี (GSP) สินค้าไทย มีผลบังคับใช้ 25 เม.ย. 63 โดยให้เหตุผลว่าไทยล้มเหลวในเรื่องการให้สิทธิแรงงานตามหลักสากล ส่งผลมีภาระภาษีเพิ่ม 1.5-1.8 พันลบ.และทางกระทรวงพาณิชย์ได้ประเมินสถานการณ์ดังกล่าวว่าจะส่งผลต่อการส่งออกประมาณ 0.01% ซึ่งถือว่าเป็นผลกระทบที่น้อยมาก
พร้อมกันนี้ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ได้มีการณ์ลดคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้เหลือ 2.9% จากครั้งก่อน 3.5% ส่วนปี 2563 คาดการณ์ GDP โตที่ระดับ 3% และทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ของกระทรวงการคลังได้มีการปรับลดประมาณการ GDP ปี 2562 เหลือ 2.8% และปี 2563 ที่ระดับ 3.3% ดังนั้นจึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,585 – 1,615 จุด
นอกจากนี้ควรจับตาในประเด็นด้านเศรษฐกิจอื่นๆอย่างใกล้ชิด โดยในวันที่ 29 ต.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม และทางสหรัฐ เปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เดือนก.ย. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค. ส่วนในวันที่ 31 ต.ค. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกันในวันที่ 29-30 ต.ค. ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ประชุมนโยบายการเงิน ซึ่งจะทราบผลวันที่ 31 ต.ค. เวลาในประเทศไทยโดยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และวันเดียวกันทางธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ด้านนางสาว วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับปัจจัยบวก ในขณะนี้แม้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้า ทั้งสองฝ่ายต่างเปิดเผยว่าใกล้จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าบางส่วนในขั้นแรก รวมทั้งทางรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ยืนยันมาตรการ “ชิม ช้อป ใช้” ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยการท่องเที่ยวเป็นเม็ดเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ในช่วงปลายปีนี้
ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นเด่นเดือนต.ค. 2562 เช่น JUBILE, ARROW และ TNP รองลงมาหุ้นได้ประโยชน์จากโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” เช่น ROBINS, BJC, MAKRO, SPA ERW, TNP และ CPALL รวมทั้งหุ้น Defensive Stock (Beta <1 yield >5%) เช่น TISCO, SPF RSP, TWPC, DIF และ GPI
ส่วนราคาทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำให้ถือสถานะที่มีและมีจุดขายทำกำไรที่แนวต้าน 1,520-1,540 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นราคาทองคำไทย 21,750-22,060 บาทต่อบาททองคำ โดยมีประเด็นบวกจากคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 29-30 ตุลาคม 2562 จาก 2.00% สู่ 1.75% เป็นปัจจัยหนุนต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ลุล่วงไปด้วยดีทำให้นักลงทุนถือครองทองคำลดลง อีกทั้งกองทุน SPDR ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มชะลอการซื้อทองคำ