THAI พุ่งอีก10% หลังวิ่ง 3 วันติด! คาดเก็งกำไรแผนฟื้นฟูกิจการตามเส้นตาย “ศักดิ์สยาม”
THAI พุ่งอีก10% หลังวิ่ง 3 วันติด! คาดเก็งกำไรแผนฟื้นฟูกิจการตามเส้นตาย "ศักดิ์สยาม"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ณ เวลา 11.34 น. อยู่ที่ระดับ 8.15 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 10.14% ราคาหุ้นวิ่ง 3 วันติดโดยนับตั้งแต่หุ้นปรับตัวอยู่ที่ระดับ 7.20 บาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค.62 คาดนักลงทุนเก็งกำไรคาดหวังผลประกอบการพลิกฟื้นตามแผนเร่งด่วนภายในปีนี้
อนึ่งเมื่อวันที่วันที่ (28 ตุลาคม 2562) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะตรวจเยี่ยมการดำเนินงานพร้อมมอบนโยบายแก่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI โดยมี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานกรรมการบริษัท การบินไทยฯ คณะกรรมการบริษัทฯ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และฝ่ายบริหาร บริษัท การบินไทยฯ ร่วมประชุมหารือและให้การต้อนรับ ณ สำนักงานใหญ่ การบินไทย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ของการบินไทยท่ามกลางปัญหาที่สะสมมาหลายยุคสมัย จากปัจจัยภายนอกมากมาย และการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจการบินโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบนโยบายเพื่อฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดการบินโลก
โดยบริษัท การบินไทยฯ ต้องหา Position ของตนเองในอุตสาหกรรมการบินโลกให้ชัดเจน เพื่อสร้างมาตรฐานการบริการให้กลับมาเป็นสายการบินชั้นนำของโลกดังที่เคยเป็นมาในอดีต (Brand Rejuvenation) หาจุดแข็งและสร้างความแข็งแกร่งเพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า การวางตำแหน่งทางการตลาดทั้งราคาและคุณภาพการให้บริการให้สามารถแข่งขันกับสายการบินชั้นนำของโลก มีการตรวจสอบคุณภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอโดยให้ความสำคัญกับการรับฟังความเห็นของผู้ใช้บริการผ่านช่องทาง Social Media
อีกทั้งเน้นย้ำถึงการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Optimizing Resources) ด้วยการสร้างเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เน้นการจัดลำดับความสำคัญและกำหนดสัดส่วนของการลงทุนให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และสถานะของบริษัทฯ
โดยพิจารณาเปรียบเทียบกับสายการบินชั้นนำของโลก รวมทั้งทบทวน Positioning ของบริษัทฯ เพื่อกำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติการ และตัวชี้วัดที่ชัดเจน เน้นการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่มีประสิทธิภาพ โดยให้การบินไทยทบทวนนโยบายดังกล่าว และนำเสนอกระทรวงคมนาคมภายใน 3 เดือน
พร้อมกันนี้ทางกระทรวงคมนาคมยินดีที่จะประสานงานจัดตั้งคณะทำงานและแก้ปัญหาร่วมกันแบบบูรณาการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของประเทศไทยด้านการรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยให้พิจารณาพื้นที่ในบริเวณท่าอากาศยานให้แก่ บริษัท การบินไทยฯ ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้เหมาะสมกับการเป็นสายการบินแห่งชาติ พร้อมกับสนับสนุนกิจกรรมด้านการตลาดต่างๆ สำหรับการดึงดูดนักท่องเที่ยวมาสู่ประเทศไทยให้มากขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศไทยต่อไป
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวสรุปว่ามีความเชื่อมั่นในประธานกรรมการบริษัทฯ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมผู้บริหารการบินไทยที่จะสามารถดำเนินการตามแผน และฟื้นฟูการบินไทยให้กลับมามีผลประกอบการดีขึ้น และเป็นสายการบินชั้นนำของโลกต่อไป
ด้าน นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI พร้อมรับนโยบายเพื่อนำไปสู่การดำเนินงานอย่างเต็มความสามารถรวมทั้งแก้ปัญหาการขาดทุนสะสมเพื่อให้มีกำไรอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาบริษัทฯ ประสบปัญหาจากการขาดทุนสะสม จึงมีการกำหนดแผนฟื้นฟูเร่งด่วนภายในสิ้นปี 2562 ในส่วนของการเพิ่มรายได้บริษัทฯ จะเร่งดำเนินการขายบัตรโดยสารในแต่ละเที่ยวบินให้มากที่สุดโดยใช้เทคโนโลยี Big Data และ Data Analytic มาเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ตลาด เร่งรัดหารายได้ด้าน E-Commerce รวมทั้งควบคุมและลดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ได้จัดทำแผนระยะกลางตั้งแต่ปี 2563 – 2567 ซึ่งจะมีแผนเพิ่มรายได้ อาทิ การเน้นธุรกิจสนับสนุนธุรกิจการบิน ประกอบด้วย ธุรกิจครัวการบิน ธุรกิจขนส่งสินค้า และธุรกิจที่ไม่เกี่ยวกับการขนส่ง เช่น E-Commerce วิเคราะห์และวางแผนเส้นทางการบินใหม่ โดยวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งของตลาดและฝูงบินที่บริษัทฯ มีอยู่รวมทั้งใช้ Digital Marketing เพื่อปรับรูปแบบการขายโดยใช้ Online Sales ให้ได้มากที่สุดอีกทั้งบูรณาการการทำงานกับองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวเนื่องอาทิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ขณะเดียวกัน จะเร่งดำเนินการควบคุมและลดค่าใช้จ่าย อาทิ วางแผนการจัดซื้อจัดจ้างโดยมุ่งเน้นการลดจัดซื้อจัดจ้างลง 10% จากปีก่อนและวิเคราะห์กระบวนการทำงานทั้งระบบรวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อาทิ Digital Transformation พัฒนาระบบดิจิทัลสารสนเทศ แผนการจัดหาเครื่องบิน ควบคุมติดตามแผนการจำหน่ายเครื่องบินที่ปลดระวาง พร้อมปรับปรุงโครงสร้างขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ดำเนินโครงการสำคัญต่างๆ ดังนี้
1.โครงการจัดหาเครื่องบินปี 2562-2569 ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ฝ่ายบริหารทบทวนสมมติฐานในโครงการจัดหาเครื่องบินเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมการบินที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งทบทวนพิจารณาการจัดหาแหล่งเงินทุนให้สอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ล่าสุดของบริษัทฯ เพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์กรและประเทศชาติ โดยให้นำเสนอคณะกรรมการบริษัทฯ เพื่อพิจารณาอีกครั้งภายใน 6 เดือน ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ กำลังเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน
2.การดำเนินงานด้วยนวัตกรรมและดิจิทัลเทคโนโลยี นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ โดยจัดทำโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Airline Digital Transformation โครงการพัฒนาศักยภาพการขาย และจัดจำหน่ายผ่าน Digitalization โครงการ Customer Big Data และ Corporate Business Analytic โครงการบริหารจัดการศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ โครงการจัดหาระบบติดตามและบริหารจัดการอุปกรณ์บริการภาคพื้นโครงการปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง โดยใช้ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย
3.การเปิดเส้นทางบินใหม่ โดยจะเปิดเส้นทางบินสู่เซนได ประเทศญี่ปุ่น ศูนย์กลางภูมิภาคโทโฮคุ โดยทำการบินเที่ยวบินแรกในวันที่ 29 ตุลาคม 2562 โดยทำการบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
4.ความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยจัดทำแคมเปญร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบ 60 ปี การบินไทย และ 60 ปี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองโดยแพคเกจทัวร์เอื้องหลวง อีกทั้งร่วมมือในการจัดตั้ง Digital Tourism Platform และ Big Data ของนักท่องเที่ยว