หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดผิดหวังผลประกอบการภาคเอกชน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบวันแรกในรอบ 10 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนทั้งในสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดวานนี้ (21 ก.ค.) ที่ 402.66 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,106.57 จุด ลดลง 35.92 จุด หรือ -0.70%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,604.80 จุด ร่วงลง 130.92 จุด หรือ -1.12% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,769.07 จุด ลดลง 19.62 จุด หรือ -0.29%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชนทั้งในสหรัฐและยุโรป รวมถึงบริษัท IBM ซึ่งเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 15% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.58 ดอลลาร์ และเวอไรซอน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไวร์เลสรายใหญ่สุดในสหรัฐ เปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 1.04 ดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์
หุ้นโนวาร์ติส ร่วงลง 2.1% หลังจากบริษัทรายงานยอดขายปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้น Remy Cointreau ซึ่งเป็นผู้ผลิตสุรารายใหญ่ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 2.5% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาดการณ์, หุ้นซาแลนโด เอสเอ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าทางออนไลน์ของเยอรมนี ร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 อาจจะออกมาน้อยกว่าคาด เนื่องจากต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น และหุ้นอีซีเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของยุโรป ปรับตัวลง 3.2% เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าอีซีเจ็ทอาจจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ด้านการเดินทางทางอากาศที่ซบเซาลง
สำหรับประเด็นกรีซที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนนั้น รัฐสภากรีซจะลงมติในวันพุธนี้เพื่อรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปธนาคาร และกระบวนการยุติธรรมตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน
ทั้งนี้ คาดว่ารัฐสภากรีซจะมีมติอนุมัติมาตรการดังกล่าว แต่นายซิปราสจะต้องพึ่งคะแนนเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน หลังจากสมาชิกพรรคไซรีซาของเขาจำนวน 39 คนหันไปยกมือคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว