สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 พ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 1 พ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ขานรับกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด และการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนที่ขยายตัว ก็ได้ช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ ข่าวความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,347.36 จุด เพิ่มขึ้น 301.13 จุด หรือ +1.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,066.91 จุด เพิ่มขึ้น 29.35 จุด หรือ +0.97% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,386.40 จุด เพิ่มขึ้น 94.04 จุด หรือ +1.13%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) ขานรับการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตจีนที่แข็งแกร่งเกินคาด และความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.68% ปิดที่ 399.43 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,761.89 จุด เพิ่มขึ้น 32.04 จุด หรือ +0.56%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,961.05 จุด เพิ่มขึ้น 94.26 จุด หรือ +0.73% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.42 จุด เพิ่มขึ้น 54.04 จุด หรือ 0.75%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจีนซึ่งเป็นผู้ใช้โลหะรายใหญ่ของโลก เปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเกินคาด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,302.42 จุด เพิ่มขึ้น 54.04 จุด หรือ +0.75%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลงในสัปดาห์นี้ และตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 56.20 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 2.07 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 61.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายสัญญาทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร และข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.4  ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,511.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.5 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 18.052 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 20.3 ดอลลาร์ หรือ 2.17% ปิดที่ 954 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 28.70 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 1,784.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) โดยยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ และจากการแสดงความเห็นของนายริชาร์ด คลาริดา รองประธานเฟด ซึ่งสนับสนุนเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.11% สู่ระดับ 97.2453

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9856 ฟรังก์ จากระดับ 0.9869 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3146 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3163 ดอลลาร์แคนาดา แต่เมื่อเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 108.25 เยน จากระดับ 107.98 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1161 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1145 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6907 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6886 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2935 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2938 ดอลลาร์

Back to top button