สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2562
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา หลังจากมีรายงานว่า การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนอาจจะเลื่อนออกไปเป็นเดือนธ.ค. อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ หลังจากซีวีเอส เฮลธ์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายยารายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 3
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,492.56 จุด ลดลง 0.07 จุด หรือ -0.00% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,076.78 จุด เพิ่มขึ้น 2.16 จุด หรือ +0.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,410.63 จุด ลดลง 24.05 จุด หรือ -0.29%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยยังคงแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 4 ปี เนื่องจากแรงซื้อหุ้นที่เกี่ยวกับผู้บริโภคและกลุ่มธนาคารได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์, เหมืองแร่ และกลุ่มเวชภัณฑ์ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าครั้งใหม่ของการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.21% ปิดที่ 405.07 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,866.74 จุด เพิ่มขึ้น 19.85 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,179.89 จุด เพิ่มขึ้น 31.39 จุด หรือ +0.24% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,396.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.12%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษเพื่อกำหนดนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,396.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ +0.12%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบ 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของบรรดาเจ้าหน้าที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก่อนที่การประชุมโอเปกและชาติพันธมิตรจะเปิดฉากขึ้นในเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 56.35 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 61.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,493.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 17.598 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 931.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 14.40 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.8% ปิดที่ 1,761.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเงินเยนและฟรังก์สวิส ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.93 เยน จากระดับ 109.22 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9924 ฟรังก์ จากระดับ 0.9933 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3183 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3158 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1068 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1063 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.2852 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2880 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6878 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6890 ดอลลาร์สหรัฐ