“วิรไท”มองไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างต้องเร่งหนุนลงทุนเอกชน
"วิรไท"มองไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างต้องเร่งหนุนลงทุนเอกชน ชี้รีบแก้ไข คือ การปฏิรูประบบราชการและรัฐวิสาหกิจ
นายวิรไท สันติประภพ ว่าที่ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยในการสัมมนา”เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าอย่างไร”ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งมีหลายเรื่องสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนที่ยังอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่เติบโตขึ้นมากแต่ไม่มีประสิทธิภาพ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศลดลง มีปัญหาหนี้ครัวเรือนและความเข้มแข็งของภาคครัวเรือนในชนบท รวมถึงปัญหาคอร์รัปชั่น และระบบอุปถัมภ์
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มี 2 เรื่องสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขเป็นลำดับแรกๆ เพื่อช่วยวางรากฐานของประเทศในอนาคต และยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคง คือ 1.ส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมองว่าหลายดัชนีที่เป็นเครื่องชี้เกี่ยวกับภาคการลงทุนของเอกชนอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง การลงทุนที่แท้จริงของไทยเป็นประเทศเดียวที่ยังไม่กลับไปเติบโตได้เหมือนก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 39 ขณะที่การลงทุนของหลายประเทศแถบนี้กลับมาเติบโตมากขึ้นแล้ว
ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)ที่เข้ามาในช่วงหลังนี้ ส่วนใหญ่เป็นการเข้ามาซื้อกิจการในประเทศ ไม่ใช่การตั้งฐานการผลิตใหม่หรือต่อยอดการผลิต จึงไม่ได้มีผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศมากนัก
ส่วนเรื่องที่ 2 ที่ต้องรีบแก้ไข คือ การปฏิรูประบบราชการและรัฐวิสาหกิจ เพราะบทบาทของภาครัฐมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย และบทบาทของรัฐวิสาหกิจก็มีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่ในปัจจุบันกลไกภาครัฐและรัฐวิสาหกิจที่ควรจะต้องปรับให้เล็กลงกลับใหญ่ขึ้นแต่มีประสิทธิภาพลดลง