น้ำมันดิบปิดร่วงหลังสต็อกสหรัฐพุ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดการผลิตน้ำมัน


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ ปิดวานนี้ (22 ก.ค.) ที่ 49.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.00 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 463.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มโอเปกระบุว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันในเดือนนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะไม่ทำให้โอเปกลดกำลังการผลิตน้ำมัน เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของโอเปกกล่าวว่า แม้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่หากสิ่งนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ก็จะไม่ทำให้โอเปกลดเพดานการผลิตลง

Back to top button