สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 พ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 พ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นทำนิวไฮอีกครั้งเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แสดงความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากราคาหุ้นดิสนีย์ที่ทะยานขึ้นกว่า 7% หลังจากยอดลงทะเบียนผู้ใช้บริการสตรีมมิ่ง “Disney+” พุ่งทะลุ 10 ล้านราย อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาดในระหว่างวัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,783.59 จุด เพิ่มขึ้น 92.10 จุด หรือ +0.33% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,094.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.20 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,482.10 จุด ลดลง 3.99 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่รุนแรงขึ้นในฮ่องกง ขณะที่ตลาดหุ้นสเปนปรับตัวแย่กว่าตลาดอื่นๆ เนื่องจากมีความไม่แน่นอนทางการเมืองมากขึ้น หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.26% ปิดที่ 405.86 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,907.09 จุด ลดลง 12.66 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,230.07 จุด ลดลง 53.44 จุด หรือ -0.40% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.21 จุด ลดลง 14.23 จุด, -0.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของอังกฤษ และการร่วงลงของหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ถ่วงตลาดลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.21 จุด ลดลง 14.23 จุด หรือ -0.19%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของเลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งต่างก็แสดงมุมมองในเชิงบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของรัฐบาลสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 57.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 62.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,463.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 22.1 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 16.913 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 874.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,675.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างยั่งยืนหลังจากเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากอังกฤษเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2837 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2855 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.0999 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1009 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6830 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6842 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.77 เยน จากระดับ 108.96 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9893 ฟรังก์ จากระดับ 0.9923 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3254 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3222 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button