GULF กำไรปกติ Q3 โต 32% เฉียดระดับพันล้าน! หลังรับรู้รายได้รฟฟ.”กัลฟ์ เอ็มพี”ครบ 12 แห่ง
GULF กำไรปกติ Q3 โต 32% เฉียดระดับพันล้าน! หลังรับรู้รายได้รฟฟ."กัลฟ์ เอ็มพี"ครบ 12 แห่ง
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/62 และงวด 9 เดือนแรกปี 2562 มีกำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) ในช่วงไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้น 32.2% จากไตรมาส 3/61 มาที่ระดับ 996.6 ล้านบาท จากไตรมาส 3/61 มีกำไรจากการดำเนินงาน 754.1 ล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้กำไรเต็มไตรมาสของ 12SPPs ภายใต้กลุ่ม บริษัท กัลฟ์ เอ็มพี จำกัด หรือ GMP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น 70.0% ที่เปิดดำเนินการครบทั้ง 12 โครงการในไตรมาส 3/62
โดยโรงไฟฟ้าทั้ง 12 โครงการสามารถขายไฟฟ้ากับ กฟผ. และกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมได้สูงขึ้นถึง 19.7% และ 9.1% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับในไตรมาสที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน ซึ่งในส่วนของ กฟผ. นั้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อน เนื่องจาก กฟผ. กลับมาซื้อไฟฟ้าในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่อยู่ในจังหวัดระยองในไตรมาส 3/62 มากขึ้นเพื่อชดเชยผลกระทบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าในจังหวัดระยองจากการปรับปรุงสายส่งขนาด 500 กิโลโวลต์เป็นเวลา 37 วัน ในไตรมาสที่ผ่านมา (ปลายเดือนพฤษภาคมถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2562)
ด้านรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 87.0% จากปีก่อนจาก 4,458.3 ล้านบาทในไตรมาส 3/61 เป็น 8,337.7 ล้านบาท ในไตรมาส 3/62 จากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP ซึ่งทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2560 ถึงไตรมาส 3/62
ประกอบกับการรับรู้ รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ TTCIZ-02 ขนาด 50.0 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนามที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปในวันที่ 19 เมษายน 2562 เทียบกับการรับรู้รายได้เพียง 7 โครงการในไตรมาส 3/61 ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้า SPP ที่ทยอยเปิดดำเนินการในช่วงสามปีที่ผ่านมาก็สามารถขยายฐานลูกค้าอุตสาหกรรมและมีปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำมากขึ้นตามลำดับด้วยเช่นกัน (โดยเฉลี่ยประมาณ 8% – 10% ต่อโครงการ)