CHG พุ่ง 3% หลังอวดกำไรไตรมาส 3 โต 78% โบรกฯชูเป้า 3 บ. เล็งปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 62-63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG ล่าสุด ณ เวลา 11.31 น. อยู่ที่ 2.56 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.23% สูงสุดที่ 2.66 บาท ต่ำสุดที่ 2.54 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 189.46 ล้านบาท

โดย ราคาหุ้น CHG ปรับตัวขึ้น หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/62 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.62 ดังนี้

ทั้งนี้ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CHG ราคาเป้าหมาย 3 บาท/หุ้น โดยกำไรสุทธิงวด ไตรมาส 3/62 น่าประทับใจ สร้างสถิติสูงสุดใหม่ที่ 269 ล้านบาท เพิ่ม 142.2% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน และ 78.2% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยมาจากรายได้กิจการโรงพยาบาลเติบโต 24.5% เมื่อเทียบจากปีก่อน

โดยรายได้กลุ่มผู้ป่วยเงินสดเติบโต 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน จากการเปิดให้บริการโรงพยาบาลแห่ง 2 แห่งช่วงครึ่งหลังของปี 2561 และการเข้ารับบริการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลเดิม ขณะรายได้โครงการประกันสังคมเติบโต 35% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นผลจากบริษัทได้รับเงินจริงค่าภาระเสี่ยงงวดที่ 12 ปี 2561 สูงกว่าที่มีการบันทึกตั้งประมาณไว้จึงรับรู้รายได้ที่ตั้งสำรองฯต่ำกว่าที่ได้รับจริงในงวดไตรมาส 3/62 และปรับเพิ่มประมาณการรายได้ภาระเสี่ยงดังกล่าวของปี 2562 ให้สอดคล้องกับที่ได้รับจริงของปี 2561

ขณะที่รายได้จากโครงการภาครัฐอื่นเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบจากปีก่อนจากจำนวนเคสที่ส่งต่อจากโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมารับการรักษาเพิ่มขึ้น และทางภาครัฐได้มีการปรับอัตราการจ่ายเงินของโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพิ่มขึ้นจากเดิม 6 พันบาทต่อ Adjust RW เป็น 8,050 บาท ต่อ Adjust RW ตั้งแต่ต.ค. 2561 9.1% เมื่อเทียบจากปีก่อน ขณะอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 28.1% ในงวดไตรมาส 3/61 เป็น 34.6% เป็นผลจากการปรับเพิ่มรายได้ภาระเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น และการควบคุมต้นทุนของแต่ละสาขาในกลุ่มได้ดี  สามารถชดเชยค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นถึง 25.9%

ทั้งนี้จากกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปี 2562 คิดเป็น 82% ของประมาณการทั้งปี 2562 ส่งผลให้จะทบทวนปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562 และ ปี 2563  ซึ่งเดิมคาดว่ากำไรสุทธิปี 2562 จะเติบโตเพียง 7.5% เชื่อว่ากำไรสุทธิปี 2562 จะเติบโตได้เกิน 10% และจะเติบโตต่อเนื่องเกิน 12% ในปีถัดไป  โดยเชื่อว่าทั้ง 2 โรงพยาบาลใหม่ จะเริ่มคุ้มทุน และกลับมากำไรได้ภายในปีหน้า ด้วยผลประกอบการงวดไตรมาส 3/62 ที่ดีเกินคาด บวกกับราคาเป้าหมายใหม่ปี 62 เบื้องต้นอยู่ที่ 3 บาท