Daily View (AM) – บล.กสิกรไทย

SCC (ปิด 516.00 บาท) ราคาเหมาะสมทางพื้นฐาน 579.00 บาท  

– กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ยังมีแนวโน้มทรงตัวเหนือ 1 หมื่นลบ. เช่นเดียวกันไตรมาส 1/58 

– ส่วนต่างปิโตรเคมียังทรงตัวในระดับสูง ทั้ง HDPE และ PP

– เราคาดครึ่งปีหลังอุปสงค์ปูนแข็งแกร่ง จากการเร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆโดยภาครัฐ

– มีการลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยศักยภาพธุรกิจครอบคลุมภูมิภาคเอเซียน

– เป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้นที่ 540 ตัดขาดทุนที่ 508.00 บาท

 

IRPC (ปิด 4.34 บาท) ราคาเหมาะสมทางพื้นฐาน 5.20 บาท                     

– มองโครงการ UHV ที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ต.ค. 2558 เป็นตัวพลิกฟื้นกำไรบริษัทอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเราประเมินว่าจะช่วยสร้าง EBITDA ราว 159 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี

– โครงการขยายกำลังการผลิตโพลิโพรพิลีน (PP) และโครงการ PP compounding กำลังการผลิตรวมกันที่ 300,000 ตัน/ปี มีกำหนดการเริ่มดำเนินงานในช่วงกลางปี2560 เราประเมินว่าจะช่วยสร้าง EBITDA ราว 23 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี 

– คาดการณ์การเติบโตกำไรปกติและกำไรสุทธิของ IRPC ที่ 231% และ 44% ในปี 2559 ตามลำดับ

– ปัจจุบันซื้อขายที่ 14.5 เท่า PER ปี 58 

– เป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้นที่ 4.50-4.70 ตัดขาดทุนที่ 4.26 บาท

 

BCP(ปิด 35.50 บาท) ราคาเหมาะสมทางพื้นฐาน 40.00 บาท           

– ตั้งเป้า EBITDA ที่ 2.5 หมื่นล้านในปี 63 จากปัจจุบันอยู่ที่เพียง 1.0 หมื่นล้าน โดยบริษัทมีแผน เข้าสู่ธุรกิจใหม่คือ โครงการด้านการสำรวจและผลิต (E&P) ขณะเดียวกัน BCP มีเป้าหมายที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าขึ้นเท่าตัวภายในปีนี้ (จาก 118MW เป็น 250MW) และเพิ่มเติมเป็น 500MW ภายในปี 2563 ผ่านการลงทุนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

– แม้มีแผนลงทุน (CAPEX) กว่า 9 หมื่นลบ.ในช่วง 6 ปี ข้างหน้า แต่บริษัทยังคงมั่นใจว่า ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีความสามารถในการกู้ และสถานะกระแสเงินสดที่ดี

– ปัจจุบันซื้อขายที่ 8.8 เท่า PER ปี 58 ด้วยคาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 4.9%

– เป้าหมายทางกลยุทธ์ระยะสั้นที่ 37.00 / ตัดขาดทุนที่ 34.25 บาท