SCB ผนึก 15 แบงก์ชั้นนำปล่อยกู้ GULF ปั้นรฟฟ. IPP เฟสสอง 2,650MW

SCB ผนึก 15 แบงก์ชั้นนำปล่อยกู้ GULF ปั้นรฟฟ. IPP เฟสสอง 2,650MW


บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า ในวันนี้ (18 พ.ย. 62) บริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อม 70% ผ่านบริษัท อินดิเพนเดนท์ พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด หรือ IPD และเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ปลวกแดง หรือ โครงการ GDP ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ (IPP) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 2,650 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ระยอง 2 อำเภอปลวกแดง จังหวัดระโยง มีมูลค่าโครงการประมาณ 50,000 ล้านบาท ได้ลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อเข้ารับการสนับสนุนเงินกู้ในวงเงินรวมทั้งสิ้น 41,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 23 ปี

โดยแบ่งเป็นสกุลเงินบาทประมาณ 50% และสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯประมาณ 50% กับกลุ่มสถาบันทางการเงิน ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 16 แห่ง รวมถึงธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JBIC) และธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)

ทั้งนี้ โครงการ GPD มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมาก เนื่องจาก GPD ได้เข้าทำสัญญาแลกเปลี่ยนจากอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Interest rate swap) ได้ในอัตราที่ต่ำจากภาวะดอกเบี้ยที่ต่ำในปัจจุบัน และเป็นระยะเวลา 20 ปี ทำให้ GDP สามารถปิดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยของตลาดในอนาคต โดยโครงดาร GPD มีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2566 และ 2567

ทั้งนี้ IPD เป็นบริษัทย่อยที่บริษัท และกลุ่ม Mitsui & Co., Ltd. ถือหุ้นในสัดส่วน 70% และ 30% ตามลำดับ จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า IPP 2 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 5,300 เมกะวัตต์ ได้แก่ โครงการ GPD ที่ได้กล่าวไปข้างต้น และโครงการ GSRC ขนาดดำลังผลิตติดตั้ง 2,650 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างไปแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 และมีความคืบหน้าการก่อสร้างประมาณ 39.5% จาก ณ สิ้นเดือน กันยายน 2562 โดยมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2564 และ 2565 ทั้งนี้ ทั้งสองโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นระยะเวลา 25 ปี

สำหรับกลุ่มสถาบันการเงินทั้งในไทยและต่างประเทศ 16 แห่ง ได้แก่ ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC), ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB), ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (SMBC)

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), ธนาคารออมสิน จำกัด, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารโอเวอร์ซี ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (OCBC), ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM), ธนาคารมิซูโฮ จำกัด สาขากรุงเทพฯ, ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ จำกัด สาขาสิงคโปร์ และธนาคาร DZ Bank 

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ GULF ได้เซ็นสัญญากับกลุ่ม “มิตซุย มิตรพาวเวอร์ และอินดิเพนเดนท์” เพื่อลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า 2 แห่งในศรีราชา และระยอง กำลังผลิตรวม 5,300 เมกะวัตต์ ผ่านบริษัทย่อยได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอสอาร์ซี จํากัด (GSRC) ผู้ดําเนินโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ศรีราชา และบริษัท กัลฟ์ พีดี จํากัด (“GPD”) ผู้ดําเนินโครงการโรงไฟฟ้า กัลฟ์ ปลวกแดง ซึ่งมีกําลังการผลิตติดตั้งโครงการละ 2,650 เมกะวัตต์

โดยโครงการโรงไฟฟ้า GSRC ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้า IPP โครงการแรกกำลังการผลิต 2,650 เมกะวัตต์ ได้ดําเนินการจัดหาเงินกู้สําเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เข้าลงนามในสัญญาเงินกู้เพื่อรับการสนับสนุนเงินกู้ระยะยาวในวงเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 38,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสกุลเงินบาท ร้อยละ 50 และสกุลเงินเหรียญสหรัฐร้อยละ 50 กับกลุ่มสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 12 แห่ง ได้แก่

ธนาคารพัฒนาเอเชีย (“ADB”), ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC”), ธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน), ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จํากัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทย จํากัด (มหาชน), ธนาคารมิซูโฮ จํากัด สาขากรุงเทพฯ, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย, ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จํากัด (มหาชน), ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย ทรัสต์ จํากัด สาขาสิงคโปร์ และ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)

Back to top button