สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2562
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 พ.ย. 2562
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ขานรับข่าวสหรัฐประกาศขยายเวลาอีก 90 วันให้แก่บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ในการซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่เป็นซัพพลายเอร์ของหัวเว่ย อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,036.22 จุด เพิ่มขึ้น 31.33 จุด หรือ +0.11% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,122.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด หรือ +0.05% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,549.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.11 จุด หรือ +0.11%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นำตลาดร่วงลง แต่แรงซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยช่วยพยุงตลาดไม่ให้ปรับตัวลงมากนัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.01% ปิดที่ 405.99 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,929.79 จุด ลดลง 9.48 จุด หรือ -0.16% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,207.01 จุด ลดลง 34.74 จุด หรือ -0.26% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,307.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด หรือ +0.07%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากผลสำรวจที่บ่งชี้ว่า พรรคอนุรักษ์นิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของอังกฤษ จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค.นี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,307.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด หรือ +0.07%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตร ที่กรุงเวียนนาในช่วงต้นเดือนหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 67 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 57.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 86 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 62.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,471.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.2 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 17.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 895.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 21.90 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,704.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.63 เยน จากระดับ 108.81 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9883 ฟรังก์ จากระดับ 0.9902 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3204 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3228 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1074 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1052 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2955 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2901 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6810 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6815 ดอลลาร์สหรัฐ