STI ลุยประมูลงานเต็มสูบ มั่นใจดันผลงานปีนี้ “ออลไทม์ไฮ” หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.7 พันลบ.

STI ลุยประมูลงานเต็มสูบ มั่นใจดันผลงานปีนี้ “ออลไทม์ไฮ” หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.7 พันลบ.


นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3/62 มีรายได้รวมจากการให้บริการจำนวน 186.2 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 166.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 11.7% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 23.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 22.9%

โดยรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจาก ธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง รายได้เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านบาท อาทิ โครงการปรับปรุงศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โครงการ Terminal21 พระราม 3 โครงการ UOB สำนักงานใหญ่ (สุขุมวิท) โครงการ Tipco Building Extension และโครงการที่มีการดำเนินงานต่อเนื่อง เช่น โครงการ One Bangkok และ โครงการ The PARQ

รวมทั้งโครงการประเภทอาคารเอนกประสงค์  ส่วนรายได้จากธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เพิ่มขึ้น 13.1 ล้านบาท  เนื่องจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น เช่น งานพัฒนาโครงการพื้นที่ชุมชนตามการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก งานโครงการประเภทโรงงานและคลังสินค้าหลายแห่ง รวมถึงงานโครงการประเภทอาคารเอนกประสงค์

ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2562 มีรายได้รวม 524.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79.7 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 17.9% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 63.8  ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 33.3 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 109.2% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 33.4 % อัตรากำไรสุทธิ 12.2%

โดยผลประกอบการที่ประกาศออกมาเป็นไปตามคาดการณ์ และเป้าหมายที่วางไว้ จากการลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน กลุ่มลูกค้ามีการพัฒนาและปรับปรุงโครงการอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งประเภทแนวราบและแนวสูงโดยงานใหม่ที่รับเข้ามาเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้อย่างโครงการพัฒนาหมอน 33 หรือบล็อก 33 เขตพาณิชย์สวนหลวง – สามย่าน ของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (PMCU) ที่มีมูลค่าสัญญารวม 94 ล้านบาท ด้วยข้อได้เปรียบของ STI ที่มีความสามารถในการบริหารพอร์ตในมือที่หลากหลายและโดดเด่น โดย ณ สิ้นตุลาคม 2562 มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) 1,700 ล้านบาท  ทยอยรับรู้รายได้ไปอีก 3 ปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อยู่ระหว่างประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกหลายโครงการ เพื่อเสริม Backlog ในมือสนับสนุนภาพรวมปี 2562 ทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งรายได้และกำไร เมื่อเทียบกับปี 2561 รายได้จากการให้บริการไว้อยู่ที่ 631 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73 ล้านบาท

“ผลประกอบการที่ประกาศออกมา ยิ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของ กลุ่ม STI เราไม่กังวลสถานการณ์แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ที่ชะลอตัวจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ และมาตรการของรัฐบาล ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างทุกประเภท มีโครงการในมือหลากหลาย สะท้อนการบริหาร Product Mix อย่างมีประสิทธิภาพ

ได้แก่ โครงการประเภทคอนโดมิเนียม, มิกซ์ยูส, อาคารอเนกประสงค์, อาคารสำนักงาน และขยายโอกาสไปยังงานโครงการอื่นๆ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล เป็นต้น สนับสนุนให้ STI เติบโตต่อเนื่องในทุกไตรมาส และมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้สวยๆ ไปอีก 2-3 ปีจากนี้” นายสมเกียรติ กล่าว

Back to top button