JAS บวกต่อ 3% ลุ้นแจกปันผลพิเศษเดือนหน้า หลังฟันกำไรขายสินทรัพย์เข้ากองฯ 8.5 พันล้าน!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ล่าสุด ณ 11.00 น. อยู่ที่ระดับ 5.05 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.13 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.64% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 294.80 ล้านบาท

โดย แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า JAS มีแนวโน้มที่จะจ่ายปันผลพิเศษจากกำไรพิเศษหลังขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) อย่างเร็วภายในช่วงเดือนธันวาคม 2562 หรืออย่างช้าในช่วงประมาณต้นปี 2563 โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเคยประเมินว่า JAS จะมีบันทึกกำไรพิเศษจากการทำรายการดังกล่าวประมาณ 6,996-8,500 ล้านบาท และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า JAS จะจ่ายปันผลพิเศษอัตราหุ้นละ 1.72 บาท

อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ดังกล่าวเทียบเคียงกับช่วงปี 2558 ที่ JAS มีการขายสินทรัพย์เข้า JASIF เสร็จสิ้นวันที่ 11 ก.พ. 2558 จากนั้นมีการประกาศจ่ายปันผลในวันที่ 23 ก.พ. 2558 (หลังขายสินทรัพย์เสร็จเพียง 12 วัน) กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อหลักทรัพย์ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล) ในวันที่ 5 มี.ค. 2558 (ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์) และจ่ายปันผลวันที่ 18 มี.ค. 2558

ด้าน นางสาวสายใจ คีตสิน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  JAS กล่าวว่า บริษัทรายงานผลสำเร็จของการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) หรือกองทุนฯ  ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัท เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562

โดยธุรกรรมการขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มนั้น ทางบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTTBB (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มกับกองทุนฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เพื่อขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจำนวน 700,000 คอร์กิโลเมตรให้แก่กองทุนฯ  โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 38,000 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยการขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มให้แก่กองทุนฯ ตามสัญญาซื้อขายทรัพย์สินส่วนเพิ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562

ขณะที่ธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจากกองทุนฯ นั้น ทาง TTTBB ได้เข้าทำสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาเช่าหลักและสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมและแทนที่สัญญาประกันรายได้กับกองทุนฯ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 โดยสัญญาทั้งสองสัญญาดังกล่าวมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งเป็นวันที่ TTTBB ขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มให้แก่กองทุนฯ เสร็จสิ้น โดยธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจากกองทุนฯ ในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยธุรกรรมดังต่อไปนี้ การเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงส่วนเพิ่มจากกองทุนฯ, การขยายอายุสัญญาเช่าหลักสำหรับสัญญาเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงหลักเดิม และการให้สิทธิแก่กองทุนฯ ในการขอต่ออายุสัญญาเช่าหลัก

ทั้งนี้ รายละเอียดของธุรกรรมการเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงจากกองทุนฯ ในครั้งนี้ปรากฏตามหนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท (ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562) และสารสนเทศของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562

นอกจากนี้ได้ทำธุรกรรมการจองซื้อหน่วยลงทุน โดยบริษัทได้เข้าจองซื้อหน่วยลงทุนใหม่ของกองทุนฯ ในจำนวน 475,000,000 หน่วย ที่ราคา 9 บาทต่อหน่วย คิดเป็นเงินจำนวนรวม 4,275 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 19% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของกองทุนฯ ในการเสนอขายครั้งนี้ ซึ่งเมื่อรวมกับหน่วยลงทุนที่บริษัทถืออยู่ในปัจจุบัน คิดเป็นสัดส่วน 19% ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของกองทุนฯ

นอกจากนี้ บริษัท TTTBB และ บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) ยังได้เข้าทำสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนฯ ข้างต้น เพื่อให้การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวสำเร็จลุล่วง