ผู้ถือหน่วย CPNREIT ไฟเขียวลงทุนครั้งใหญ่ 5.59 หมื่นลบ. เพิ่มศักยภาพสร้างรายได้
ผู้ถือหน่วย CPNREIT ไฟเขียวลงทุนครั้งใหญ่ 5.59 หมื่นลบ. เพิ่มศักยภาพสร้างรายได้
นางสาวพิรินี พริ้งศุลกะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีเอ็น รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ ครั้งที่ 1/2562 มีมติอนุมัติให้ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNREIT) เข้าลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ 7 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 55,990 ล้านบาท (ไม่รวมค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม และอากรแสตมป์ ตลอดจนค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง)
ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพการสร้างรายได้และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้แก่กองทรัสต์ฯ จากปัจจุบันที่มีทรัพย์สิน ประกอบด้วย โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และโรงแรมฮิลตัน พัทยา
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย การลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 จาก บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN และ/หรือบริษัทย่อยของ CPN จำนวน 5 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 48,560 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการเซ็นทรัลมารีนา : ลงทุนในสิทธิการเช่า/เช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 15 ปี (สิ้นสุด 30 เมษายน 2578) และกรรมสิทธิ์สังหาริมทรัพย์ คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 45,149 ตารางเมตร
- โครงการเซ็นทรัลพลาซา ลำปาง : ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 22 ปี (สิ้นสุด 16 ธันวาคม 2584) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 45,716 ตารางเมตร
- โครงการเซ็นทรัลพลาซา สุราษฎร์ธานี : ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่าในงานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (นับจากวันที่เริ่มระยะเวลาเช่า) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 87,004 ตารางเมตร
- โครงการเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี : ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่างานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (นับตั้งแต่เริ่มระยะเวลาเช่า) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 69,821 ตารางเมตร และ
- โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 (ช่วงต่ออายุ) : ลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ สิทธิการเช่างานระบบ ระยะเวลาประมาณ 30 ปี (ตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2568 – 15 สิงหาคม 2598) คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 264,530 ตารางเมตร
ทั้งนี้ CPNREIT จะแต่งตั้ง CPN เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการในทรัพย์สินกลุ่มที่ 1
ขณะเดียวกัน กองทรัสต์ CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 จำนวน 2 โครงการ โดยการรับโอนทรัพย์สินจาก ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงานจีแลนด์ (GLANDRT) มูลค่าลงทุนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 7,430 ล้านบาท ได้แก่
- โครงการอาคารสำนักงานเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส: รับโอนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาคงเหลือประมาณ 27 ปี (สิ้นสุด 18 เมษายน 2590) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 95,997 ตารางเมตร และ
- โครงการอาคารสำนักงานยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์: รับโอนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ ระยะเวลาคงเหลือประมาณ 15 ปี (สิ้นสุด 14 พฤศจิกายน 2577) และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นพื้นที่จะลงทุนประมาณ 30,176 ตารางเมตร
ทั้งนี้ CPNREIT จะแต่งตั้ง บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สเตอร์ลิง อีควิตี้ จำกัด เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการในทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 นี้ ต่อไปเช่นเดิม
ส่วนแหล่งเงินทุนเพื่อใช้สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินกลุ่มที่ 1 และ/หรือทรัพย์สินกลุ่มที่ 2 และ/หรือเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการระดมทุนและลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม (ไม่รวมการชำระค่าเช่าโครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 ช่วงต่ออายุ) จะมาจาก 1) เงินกู้ยืมจากธนาคาร และ/หรือสถาบันการเงิน และ/หรือการออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินรวมไม่เกิน 13,500 ล้านบาท และ 2) การเพิ่มทุนของ CPNREIT โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 770 ล้านหน่วย
โดยที่การจัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมประกอบด้วย ส่วนที่ 1: จัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ CPNREIT ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมดังกล่าว ส่วนที่ 2: จัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ GLANDRT ไม่เกินร้อยละ 25 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม และ ส่วนที่ 3: จัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนที่เหลือจากการจองซื้อตามส่วนที่ 1 และ/ หรือส่วนที่ 2 ให้แก่บุคคลในวงจำกัด และ/หรือประชาชนทั่วไปตามที่เห็นสมควร
ทั้งนี้ การลงทุนเพิ่มเติมในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่างานระบบ (ระยะเวลาการเช่าตั้งแต่ 16 สิงหาคม 2568 – 15 สิงหาคม 2598) ใน โครงการเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2 (ช่วงต่ออายุ) คาดว่า CPNREIT จะเข้าทำสัญญากับ บริษัท เซ็นทรัลพระราม 2 จำกัด โดยจะวางหลักประกันชำระค่าเช่าเป็นเงินสดหรือหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินจำนวน 1,800 ล้านบาท และจะชำระค่าเช่าในวันเริ่มระยะเวลาการเช่า
โดยเบื้องต้นแหล่งเงินทุนเพื่อชำระค่าเช่าจะมาจากการกู้ยืม และการเพิ่มทุนของ CPNREIT โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในปี 2568 จำนวนไม่เกิน 630 ล้านหน่วย โดยที่การจัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมดังกล่าว ประกอบด้วย ส่วนที่ 1: จัดสรรให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ CPNREIT ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม และ ส่วนที่ 2: จัดสรรหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในส่วนที่เหลือจากการจองซื้อตามส่วนที่ 1 ให้แก่บุคคลในวงจำกัด และ/หรือประชาชนทั่วไปตามที่เห็นสมควร
“การเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มขนาดทรัพย์สินและศักยภาพการสร้างรายได้แก่กองทรัสต์ CPNREIT อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มีการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในทรัพย์สินที่ดียิ่งขึ้น และโอกาสเพิ่มผลตอบแทนที่ดีจากทรัพย์สินที่มีคุณภาพ รวมถึงตอกย้ำการเป็นกองทรัสต์จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุด นับจากที่ CPNREIT แปลงสภาพจากกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (CPNRF) และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อเดือนธันวาคม 2560 โดยที่ CPNREIT สามารถจ่ายประโยชน์ตอบแทน (เงินปันผลและส่วนลดทุน) แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ทุกไตรมาสอย่างสม่ำเสมอและเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ CPNRF” นางสาวพิรินี กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ GLANDRT ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ได้มีมติอนุมัติให้กองทรัสต์ GLANDRT จำหน่ายทรัพย์สินของกองทรัสต์โดยการโอนสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ และกรรมสิทธิ์ในสังหาริมทรัพย์ รวมถึงรับโอนสิทธิและหน้าที่ตามสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในโครงการอาคารสำนักงานเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส และโครงการอาคารสำนักงานยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ ให้แก่กองทรัสต์ CPNREIT โดยมีมูลค่าการจำหน่ายทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 7,430 ล้านบาท
โดยภายหลังการโอนทรัพย์สินให้แก่กองทรัสต์ CPNREIT แล้ว กองทรัสต์ GLANDRT จะดำเนินการจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทน และ/หรือจ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ GLANDRT จากเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินกองทรัสต์ หลังจากชำระคืนหนี้สินและภาระผูกพัน และหักค่าใช้จ่าย และ/หรือเงินสำรองที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของกองทรัสต์ และจะดำเนินการเลิกกองทรัสต์และการชำระบัญชีต่อไป