สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 พ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 พ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนียังคงเดินหน้าทำนิวไฮ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,121.68 จุด เพิ่มขึ้น 55.21 จุด หรือ +0.20% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,140.52 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด หรือ +0.22% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,647.93 จุด เพิ่มขึ้น 15.44 จุด หรือ +0.18%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่า การเจรจาการค้าอย่างต่อเนื่องระหว่างสหรัฐและจีน จะนำไปสู่การยุติสงครามการค้า นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ดัชนีหุ้นของสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.10% ปิดที่ 408.49 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,929.62 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด หรือ +0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,236.42 จุด ลดลง 10.03 จุด หรือ -0.08%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าสหรัฐและจีนใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินปอนด์ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้นด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,403.14 จุด เพิ่มขึ้น 6.85 จุด หรือ +0.09%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง รวมทั้งมุมมองบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรจะขยายเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปถึงกลางปีหน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 58.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ดี การที่ตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งยังคงเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ 1,460.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 เซนต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 17.045 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 11.30 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 911.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.90 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,782.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9969 ฟรังก์ จากระดับ 0.9971 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3275 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3306 ดอลลาร์แคนาดา แต่หากเทียบกับเงินเยน ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 109.02 เยน จากระดับ 108.96 เยน

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1020 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1009 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2866 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2900 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6789 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6775 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button