สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 พ.ย. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 พ.ย. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยดาวโจนส์ทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 อย่างไรก็ดี วอลุ่มการซื้อขายค่อนข้างบางเบา เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,164.00 จุด เพิ่มขึ้น 42.32 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,153.63 จุด เพิ่มขึ้น 13.11 จุด หรือ +0.42% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,705.17 จุด เพิ่มขึ้น 57.24 จุด หรือ +0.66%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่า สหรัฐและจีนจะสามารถยุติความขัดแย้งด้านการค้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมที่ปรับตัวขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า บริษัทดอยซ์ เทเลคอม กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะควบรวมกิจการกับบริษัทออเรนจ์ของฝรั่งเศส

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.32% ปิดที่ 409.81 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,287.07 จุด เพิ่มขึ้น 50.65 จุด หรือ +0.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,429.78 จุด เพิ่มขึ้น 26.64 จุด หรือ +0.36% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,926.84 จุด ลดลง 2.78 จุด หรือ -0.05%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐและจีนใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,429.78 จุด เพิ่มขึ้น 26.64 จุด หรือ +0.36%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่การผลิตน้ำมันมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 30 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 58.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 64.06 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.60 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,460.80  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.3 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 17.055 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 16.30 ดอลลาร์ หรือ 1.79% ปิดที่ 895.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 23.90 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 1,805.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินเยน ที่ระดับ 109.57 เยน จากระดับ 109.02 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9995 ฟรังก์ จากระดับ 0.9969 ฟรังก์ นอกจากนี้ ยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3281 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3275 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1004 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1020 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2912 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2866 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6789 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button