น้ำมันดิบปิดลบ ตลาดวิตกอุปทานพุ่ง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 74 เซนต์ ปิดวานนี้ (23 ก.ค.) ที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 73 เซนต์ ปิดที่ 55.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานล้นตลาดยังคงเป็นปัจจัยลบที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอีกเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 ก.ค. เพิ่มขึ้น 2.5 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 463.9 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในเดือนมิ.ย. รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นเมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติประกาศรับรองข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ซึ่งจะปูทางไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน หลังจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น อิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก ซึ่งได้แก่ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย สหรัฐ และเยอรมนี ได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์

Back to top button