BTS ย้ำเป้าผดส.งวดปี 62/63 เฉลี่ย 8 แสนคน/วัน เดินหน้าประมูลโครงการ รฟฟ.สายสีส้มต้นปี 63

BTS ย้ำเป้าผดส.งวดปี 62/63 เฉลี่ย 8 แสนคน/วัน เดินหน้าประมูลโครงการ รฟฟ.สายสีส้มต้นปี 63


นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า บริษัทฯคงเป้าหมายปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS เฉลี่ยทั้งปี 62/63 (เม.ย.62-มี.ค.63) เติบโต 4-5% หรือที่ราว 7.9-8 แสนเที่ยวคนต่อวัน โดยในช่วง 7 เดือนแรกที่ผ่านมาเติบโตแล้ว 4.4% โดยบริษัทได้มีส่วนต่อขยายเส้นหมอชิต-คูคตเข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมด้วย

พร้อมกันนี้ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 62/63 บริษัทฯจะมีการบันทึกกำไรพิเศษ จากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท เบย์วอเตอร์ จำกัด(Bayswater) ให้กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) หรือ CPN มูลค่าราว 7,600 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังไม่สามารถระบุในส่วนของกำไรที่จะต้องบันทึกได้

สำหรับกรณีการต่ออายุสัญญาสัมปทาน รถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ล่าสุดได้มีการเจรจากับคณะกรรมการเจรจา ที่มีปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ซึ่งได้ข้อยุติแล้วในการที่จะรับสัมปทานติดตั้งระบบไฟฟ้า จัดการเดินรถไฟฟ้า และบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทาง โดยบริษัทฯ ยอมรับในหลักการจัดเก็บค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท/เที่ยว

รวมถึงภาระหนี้จากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้และเหนือที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะโอนมาให้กรุงเทพมหานคร(กทม.) และการลงทุนเพิ่มในส่วนต่อขยาย รวมประมาณ 100,000 ล้านบาทด้วย แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) ต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความสนใจที่จะเข้าประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตะวันตก) ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี(สุวินทวงศ์) ระยะทาง 16.4 กิโลเมตร(กม.) วงเงินลงทุนประมาณ 120,000 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดให้ซื้อซองประกวดราคาในช่วงครึ่งแรกของปี 63

นอกจากนี้ นายสุรยุทธ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ไม่มีแผนเพิ่มทุนในช่วงระยะเวลา 3 ปี ต่อจากนี้ เนื่องจากมีกระแสเงินสด และแหล่งเงินทุนเพียงพอ แม้ว่าจะมีการลงทุนจำนวนมาก โดยบริษัทฯ ได้รับเงินจากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท (BTS-W4) ประมาณ 13,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้นำเงินดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมด โดยทำให้ลดอัตราดอกเบี้ยจ่ายได้ประมาณ 200 ล้านบาท และทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 0.8 เท่า

อนึ่ง ราคาหุ้น BTS เช้านี้อยู่ที่ 14.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.43%

Back to top button