เตือนคนกรุง! ลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลังพบค่าฝุ่นสูงถึง 183 ฟาก PM2.5 สูงสุด 57 มคก.

เว็บไซต์ aqicn.org รายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (9 ธ.ค.2562) พบว่าหลายพื้นที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน อาทิ จุดตรวจวัดสะพานควาย วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูงถึง 183, จุดตรวจกรมประชาสัมพันธ์ วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูง 157 ขณะที่ล่าสุด ณ เวลา 12.08 น. พบว่าบริเวณสถานีตำรวจโชคชัยวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศสูง 155

ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่กทม.และปริมณฑล พบว่าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยสารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐานได้แก่ ฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 29 – 59 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยพื้นที่ปริมณฑลบริเวณที่เกินมาตรฐาน 3 พื้นที่มีปริมาณฝุ่นอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้แก่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ 51 ไมโครกรัมฯ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร 51 ไมโครกรัมฯ และ ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร 59 ไมโครกรัมฯ

ขณะที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. เผยผลการตรวจวัดฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (9 ธ.ค.2562) ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ในพื้นที่ 50 เขตของกทม. โดยตรวจวัดได้ในช่วง 34-56 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมงอยู่ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) คิดเป็นร้อยละ 16.67 จากจำนวนเขตที่มีสถานีตรวจวัดทั้งหมด

ทั้งนี้ คุณภาพอากาศส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง มีเพียงเขตภาษีเจริญ57 ไมโครกรัมฯ เขตบางเขน 54 ไมโครกรัมฯ เขตบางซื่อ 53 ไมโครกรัมฯ และเขตหลักสี่ 52 ไมโครกรัมฯ โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ

สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตน ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่คุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ-มีผลกระทบต่อสุขภาพ ให้เฝ้าระวังสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ เด็กและผู้ป่วยทางเดินหายใจ และใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากเกิดความจำเป็น