หุ้นพลังงาน-ปิโตรฯวิ่งคึก! รับน้ำมันพุ่ง-เจรจาการค้าใกล้บรรลุIRPC PTTGC BANPU เด่นต่ำบุ๊ก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นกลุ่มธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค-ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ วิ่งคึกรับเจรจาการค้าใกล้บรรลุ และราคาน้ำมันดิบพุ่ง นำโดย PTT, PTTEP,TOP, IRPC,PTTGC,BANPU,IVL

ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้(13 ธ.ค.62) ณ เวลา 10.39 น. อยู่ที่ระดับ 1,579.95 จุด บวก 16.10 จุด หรือ 1.03% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 22,680.25 ล้านบาท ขานรับเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนมีความคืบหน้าในเชิงบวกหลังจากมีรายงานข่าวว่าใกล้บรรจุข้อตกลงในเฟสแรกก่อนถึงกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนรอบใหม่ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกดังกล่าว

นอกจากนี้ยังส่งผลให้หุ้นกลุ่ม SET50 หรือ หุ้น “บลูชิพ” ในตลาดหุ้นไทยมีแรงซื้อกลับเข้ามาอย่างโดดเด่น จากก่อนหน้านี้หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลงแรงเกินพื้นฐานหลายตัว โดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และพลังงานและสาธารณูปโภค และที่น่าสนใจคือ IRPC PTTGC BANPU เป็นหุ้นที่น่าเข้าลงทุนเนื่องจากราคาหุ้นต่ำกว่าต่ำกว่ามูลค่าหุ้นตามบัญชีที่แท้จริง

โดยบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ณ เวลา 10.49 น. อยู่ที่ระดับ 3.58 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.92% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 341.30 ล้านบาท โดยมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 4.15 บาท และเมื่อคิดเป็นอัพไซด์จากราคาล่าสุดสูงถึง 15.92%

ส่วน บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC  ณ เวลา 10.51 น. อยู่ที่ระดับ 55.75 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 4.69% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 934.75 ล้านบาท โดยมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 63.54 บาท และเมื่อคิดเป็นอัพไซด์จากราคาล่าสุดสูงถึง 14.15%

ด้านบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ณ เวลา 10.54 น. อยู่ที่ระดับ 11.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 47.25% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 47.25 ล้านบาท โดยมูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 14.31 บาท และเมื่อคิดเป็นอัพไซด์จากราคาล่าสุดสูงถึง 23.36%

 

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์  มีมุมมองเป็นบวกคาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,575 –  1,580 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวปธน.ทรัมป์อนุมัติหลักการข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีน และหลีกเลี่ยง Deadline การเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ 15 ธ.ค.

โดยข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมถึงการที่จีนจะซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐเพิ่มขึ้น รวมถึงมีการหารือเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่เรียกเก็บไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง

โดยราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเหนือ 59 US/Barrel และ US Bond yield พุ่งขึ้นสู่ 1.9% นอกจากนี้เอ็กซิทโพลระบุว่านายบอริส จอห์นสัน พรรคอนุรักษ์นิยมมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษซึ่งเป็นบวกต่อการทำ Brexit แบบประนีประนอมหรือแบบมีดีล  

 

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ราคาน้ำมันดิบ: สัญญาน้ำมันดิบตลาด WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. ล่าสุดอยู่ที่ 59.18 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ (+0.7%) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.พ. ปิดที่ 64.20 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ (+0.8%)  ตลาดน้ำมันดิบปรับเพิ่มตอบรับสถานการณ์การค้าโลกคลี่คลาย หลังสื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้อนุมัติในหลักการแล้วสำหรับการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน

ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆการตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน