“ก.พลังงาน” เปิดมาตรการแก้ปัญหา PM2.5 ผลักดันใช้น้ำมัน “B10-B20” ลดควันท่อไอเสีย
“กระทรวงพลังงาน” เปิดมาตรการแก้ปัญหา PM 2.5 ผลักดันใช้น้ำมัน “B10-B20” ลดควันท่อไอเสีย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะทำงานแก้ปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน PM 2.5 ในวันนี้ (20 ธ.ค.62) ทางกระทรวงพลังงานได้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหา PM 2.5 ประกอบด้วย หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้ามาร่วมบูรณาการในการแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับประเทศ
โดยเบื้องต้นมาตรการที่กระทรวงพลังงานได้นำมาขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหา PM 2.5 นั้น แบ่งเป็น 3 ระยะ ภายใต้ 4 มาตรการ ได้แก่ ระยะสั้น ช่วงปี 2562-2563 คือ การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20 เพื่อลดการปล่อย PM2.5 จากควันท่อไอเสียรถยนต์, ระยะกลาง ช่วงปี 2563-2565 คือ การสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อลดการเผาทิ้งวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และระยะยาว ช่วงปี 2565-2567 คือ การปรับเปลี่ยนมาตรฐานน้ำมันเป็นยูโร 5 และการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
สำหรับผลที่จะได้รับจากมาตรการแก้ปัญหา PM 2.5 ในช่วงระยะแรก คือ การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B10 และ B20 นั้น ในส่วนของ B10 จะสามารถลด PM 2.5 ได้ 3.5-13% B20 จะสามารถลดได้ 21-23% ซึ่งปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันดีเซล B10 มีจำนวน 411 สถานี และสถานีบริการน้ำมันดีเซล B20 มีจำนวน 2,743 สถานี
นอกจากนั้น กระทรวงพลังงานจะเร่งส่งเสริมให้เกิดการใช้รถ EV มากขึ้น โดยแนวทางหนึ่งจะเร่งรัดสร้างแรงจูงใจเพื่อให้เอกชนเข้ามาลงทุนในสถานีประจุไฟฟ้า ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับการชาร์จที่สถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมเร็วๆนี้
ขณะที่ในส่วนของมาตรฐานน้ำมันยูโร 5 ซึ่งเป็นการยกคุณภาพมาตรฐานน้ำมันให้สูงขึ้นนั้น จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.67 ล่าสุดทางบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ BCP แจ้งว่าจะสามารถจำหน่ายน้ำมันดีเซลทุกชนิดเป็นมาตรฐานยูโร 5 ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลได้ ส่วน ปตท.แจ้งว่า น้ำมันดีเซล B10 จะเป็นมาตรฐานยูโร 5 ภายในเดือน ม.ค.63