JASIF ประกาศกำไร Q2/58 แตะ 1.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 87% จากไตรมาสก่อน
JASIF ประกาศกำไร Q2 อยู่ที่ 1.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 87% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 605.67 ลบ. ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1.74 พันลบ. โดยผลประกอบการที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.58 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.2055 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 87% จากไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 605.67 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.1101 บาทต่อหุ้น
ขณะที่ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกมีกำไรสุทธิ 1.74 พันล้านบาท หรือ 0.3156 บาทต่อหุ้น โดยผลประกอบการที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมาจากรายได้ค่าเช่าทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสง
โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับข่าวหุ้นออนไลน์ว่า คาดว่าในไตรมาส 2/58 นี้ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมินหรือ JASIF จะสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นประมาณ 80% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58
ทั้งนี้ JASIF เป็นหนึ่งในสองกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยกองทุนถูกจัดตั้งขึ้นในเดือน ก.พ.15 ซึ่งระดมทุน 5.5 หมื่นลบ. เพื่อลงทุนในเส้นใยแก้วนำแสงของบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) จำนวน 980,000 คอร์กิโลเมตร JASIF จัดหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินโดยให้ TTTBB เช่าเส้นใยแก้วนำแสงตามสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 11 ปี โดยจำนวน 800,000 คอร์กิโลเมตร ถูกส่งมอบ ณ ในวันเริ่มต้นสัญญา และอีก 180,000 คอร์กิโลเมตร จะทยอยส่งมอบภายใน 2 ปี
บล.ธนชาต ประมาณการกำไรของ JASIF ไว้ที่ 4 พันลบ. ในปี 2558 และจะเติบโตต่อที่ 26% และ 10% ในปี 2559 และ 2560