TSR พุ่ง7% สวนภาวะตลาดฯ-คาดเก็งฯแผนธุรกิจโดดเด่นตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 10%
TSR พุ่ง7% สวนภาวะตลาดฯ-คาดเก็งฯแผนธุรกิจโดดเด่นตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 10%
ผู้สื่อข่าวรายว่า บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSR ณ เวลา 11.35 น. อยู่ที่ระดับ 2.12 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 7.07% ด้วยมูลค่าซื้อ 2.78 ล้านบาท ราคาหุ้นวิ่งแรงสวนตลาดฯโดยดัชนี ณ เวลา 11.31 น. อยู่ที่ระดับ 1,582.84 จุด ลบ 12.13 จุด หรือ 0.76% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 28,747.14 ล้านบาท และวิ่งแรงในรอบ 7 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นขึ้นไปทดสอบระดับ 2.18 บาท เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2562
อนึ่งก่อนหน้า นายเอกรัตน์ แจ้งอยู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TSR เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 10% จากปีนี้ ซึ่งกลยุทธ์การขายในปีหน้าจะเน้นการขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น โดยจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 8 สาขาใน 8 จังหวัดภายในเดือน เม.ย.63 ตามการขยายพื้นที่เมือง เพื่อเข้าไปทดแทนการใช้น้ำแบบถังที่เป็นนิยมใช้ในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้มีสาขารวมทั้งสิ้น 30 สาขาภายในไตรมาส 2/63 จากปัจจุบันมี 22 สาขา พร้อมกับเร่งขยายทีมขายอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบัน 201-203 ทีม
พร้อมกันนั้น บริษัทจะเน้นทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์กว่า 600 เครื่อง/เดือน โดยบริษัทจะเน้นซื้อโฆษณาระยะสั้นเพื่อทำให้สามารถปรับตัวได้ทันกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ประกอบกับ ยังคงใช้สื่อนอกบ้าน (OOH) สื่อทีวี และวิทยุ ควบคู่การโฆษณา เพื่อสร้างการรับรู้ของลูกค้าให้มากขึ้น ภายใต้งบการตลาดใกล้เคียงกับปีนี้ที่ 100 ล้านบาท รวมถึงการทำแคมเปญโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่ออกระตุ้นยอดขายด้วย
นายเอกรัตน์ กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทจะยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่เกิดขึ้น แต่จะลงทุนเพิ่มรถเคลื่อนที่ของทีมขาย และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานและระบบไอที คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านบาท โดยบริษัทมองว่าการพัฒนาระบบไอทีจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนลงได้ เข่น ต้นทุนด้านบุคลากร โดยเฉพาะระบบไอทีที่เกี่ยวข้องกับการเก็บเงินที่ทำให้พนักงาน 1 คน สามารถรับผิดชอบการเก็บเงินลูกค้าได้เพิ่มขึ้นจาก 500 ราย/เดือน เพิ่มเป็น 700-1,000 ราย/เดือน
นอกจากนี้ การนำระบบไอทีเข้ามาใช้ในการเก็บเงินและชำระเงินยังช่วยให้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่อนชำระลดลงมาอย่างต่อเนื่องจาก 8% มาอยู่ที่ 5.66% ในปัจจุบัน และคาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงระดับดังกล่าวในสิ้นปีนี้ พร้อมตั้งเป้าลด NPL ลงเหลือ 5% ในปีหน้า จากการที่จะมีการพัฒนาระบบการเก็บเงินใหม่ที่เริ่มใช้ในไตรมาส 1/63 ทำให้ประสิทธิภาพในการเก็บเงินลูกค้าเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ปีนี้บริษัทเพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าไนการชำระเงินผ่าน QR Code และช่องทางเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ขณะเดียวกัน บริษัทจะผลักดันสัดส่วนการขายสารกรองน้ำให้เพิ่มขึ้นในปี 63 เป็น 45% จากปัจจุบันที่ 30% เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายจากการขายเครื่องกรองน้ำ ซึ่งลูกค้าบางรายไม่ได้ซื้อเครื่องกรองน้ำใหม่ใช้ทุกปี บริษัทก็จะเสนอให้มีการเปลี่ยนสารกรองน้ำเสริมเข้าไปมากขึ้น เพื่อผลักดันสัดส่วนยอดขายของสารกรองน้ำให้มากขึ้น ถือว่าเป็นโอกาสที่บริษัทจะขยายช่องทางยอดขายเสริมเข้ามา และตั้งใจจะทำให้สัดส่วนการขายสารกรองน้ำไนระยะต่อไปเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 50%