ดอลล์อ่อนค่า ตลาดวิตกหุ้นจีนร่วงกระทบเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์จากความวิตกที่ว่าตลาดหุ้นจีนที่ไร้เสถียรภาพอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5511 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.75 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9631 ฟรังก์ จาก 0.9627 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7282 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7278 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นจีนร่วงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ได้เทขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังจากการทะยานขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 8 ปี นักวิเคราะห์บางรายมองว่าความปั่นป่วนในตลาดหุ้นจีนจะทำให้เฟดมีความระมัดระวังมากขึ้นในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจุดปะทุให้มีแรงเทขายดอลลาร์สหรัฐและเข้าซื้อยูโรและเยน
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของเยอรมนีที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ โดยสถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 108.0 จาก 107.5 ในเดือนมิ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 107.5
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดของ Ifo บ่งชี้ถึงแนวโน้มการขยายตัวที่สดใสในช่วงปีนี้ของเศรษฐกิจเยอรมนี ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป ขณะที่บริษัทของเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตที่พึ่งพาการส่งออก ต่างมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับธุรกิจในอนาคต