GULF ทุบ “ออลไทม์ไฮ” ไม่หยุด! ลุ้นวิ่งแตะ 200 บ. BBL-STEC-ROJNA รับเต็มกำไรเกิน 3 เท่าตัว
GULF ทุบ “ออลไทม์ไฮ” ไม่หยุด! ลุ้นวิ่งแตะ 200 บ. BBL-STEC-ROJNA รับเต็มกำไรเกิน 3 เท่าตัว
ผู้สื่อข่าวรายงาว่า ราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ล่าสุด ณ เวลา 10.21 น. อยู่ที่ 194 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.26% สูงสุดที่ 195 บาท ต่ำสุดที่ 190.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 825.25 ล้านบาท โดยราคาหุ้น GULF ปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2560 โดยมีราคา IPO อยู่ที่ระดับ 45 บาท
ทั้งนี้จากการสำรวจของ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” พบว่าราคาหุ้น GULF ณ ล่าสุดที่ระดับ 194 บาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 149 บาท หรือเพิ่มขึ้น 331% จากราคาหุ้นไอพีโอ 45 บาท (เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันที่ 6 ธ.ค. 2560)
ขณะเดียวกันจากการทำราคาปิดสูงสุดทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับประโยชน์จากกำไรจากส่วนต่างราคาในทางบัญชี (ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) โดยจากราคาปิดของหุ้น GULF วานนี้ที่ระดับ 193.50 บาท ทำให้มีกำไรจากส่วนต่างราคาเมื่อคิดเป็นกำไรจากส่วนต่างราคาได้ราวหุ้นละ 148.50 บาท จากราคาไอพีโอ 45 บาท
โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น GULF ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2562 ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ถือหุ้นจำนวน 47.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.23% จะมีกำไรจากส่วนต่างราคาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,053.75 ล้านบาท ส่วนบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ถือหุ้นจำนวน 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.88% จะมีกำไรจากส่วนต่างราคาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,940 ล้านบาท และบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA ถือหุ้นจำนวน 19.40 ล้านหุ้น คิดเป็น 0.91% จะมีกำไรจากส่วนต่างราคาคิดเป็นมูลค่าประมาณ 2,880.90 ล้านบาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด ระบุว่า จากกรณี GULF มีการลงนามบันทึกความร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามเพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ขนาด 6,000 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าข้อตกลงและการเซ็นสัญญาจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ โดย GULF จะมีส่วนแบ่งการลงทุนครั้งนี้ประมาณ 50% เป็นอย่างน้อย หากนำกำลังผลิต 3,000 เมกะวัตต์ (ตามสัดส่วนลงทุน) มาคำนวณในการประเมินครั้งนี้ จึงแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GULF และปรับราคาเป้าหมายปี 2563 ขึ้นเป็น 200 บาทต่อหุ้น