จับตาหุ้นรพ.วิ่งยกแผง รับข่าวดีประกันสังคมเพิ่มค่ารักษารายหัว! BCH เด่นสุดกำไรเพิ่ม 9%
จับตาหุ้นรพ.วิ่งยกแผง รับข่าวดีประกันสังคมเพิ่มค่ารักษารายหัว! BCH เด่นสุดกำไรเพิ่ม 9%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ม.ค.63) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม เปิดเผยถึง มติคณะกรรมการประกันสังคม ในคราวประชุมคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 ว่า ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ปี 2563 ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 242 แห่ง แบ่งเป็นสถานพยาบาลของรัฐ 163 แห่ง และสถานพยาบาลเอกชน 79 แห่ง เพื่อให้ผู้ประกันตนได้เกิดความมั่นใจในการรับบริการทางการแพทย์ ซึ่งในการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ ปี 2563 ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคมในครั้งนี้ ได้ประมาณการค่าใช้จ่ายกรณีค่าบริการทางการแพทย์ โดยเฉลี่ยอัตรา 3,959 บาท /คน/ปี
1.ค่าบริการทางการแพทย์ที่เหมาจ่ายให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญา
1.1 กรณีเหมาจ่าย ให้แก่สถานพยาบาลตามจำนวนผู้ประกันตนที่ขึ้นทะเบียน อัตรา 1,640 บาท/คน/ปี
1.2 กรณีผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW มากกว่าหรือเท่ากับ 2) อัตรา 746 บาท/คน/ปี
1.3 กรณีผู้ป่วยนอก ที่สถานพยาบาลต้องมีภาระการรักษาผู้ประกันตนป่วยด้วยโรคเรื้อรังอัตรา 453 บาท/คน/ปี รวมจ่ายให้สถานพยาบาลคู่สัญญา อัตรา 2,839 บาท/คน/ปี
2.ค่าบริการทางการแพทย์นอกเหนือเหมาจ่าย แยกกรณีอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน ค่าอวัยวะเทียมและอุปกรณ์บำบัดรักษาโรค การรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษเฉพาะทาง การบำบัดทดแทนไต ค่ายานอกบัญชียาหลัก จ(2) ค่ายาต้านไวรัส ค่ายามะเร็งและรังสีรักษา กรณีปลูกถ่ายไขกระดูก กรณีเปลี่ยนกระจกตา กรณีปลูกถ่ายอวัยวะ กรณีทันตกรรม (อุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูด ฟันเทียม) กรณีส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ค่าบริการฝากครรภ์ กรณีค่ารักษาพยาบาลสูงเกิน 1 ล้านบาท ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้พิการที่เป็นผู้ประกันตน
โดยการปรับอัตราค่าบริการทางการแพทย์ในครั้งนี้ เหตุจากสำนักงานประกันสังคมมีผู้ประกันตนที่สูงอายุเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ภาวะเงินเฟ้อ อัตราค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนในการรักษาเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้สถานพยาบาลคู่สัญญาต้องรับภาระค่าใช้จ่าย และให้การดูแลผู้ประกันตนที่มีประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจในการรับบริการทางการแพทย์ คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) จึงมีมติเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ดังกล่าว
ทั้งนี้ บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า คณะกรรมการประกันสังคมเห็นชอบปรับเพิ่มอัตราค่าบริการทางการแพทย์ปี 63 ให้แก่สถานพยาบาลคู่สัญญาในระบบประกันสังคม ประมาณการค่าใช้จ่ายกรณีค่าบริการทางการแพทย์ โดยเฉลี่ยอัตรา 3,959 บาท /คน/ปี
โดยกลุ่มโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นค่ารักษาของ สปส มีดังนี้ CHG, BCH, RJH ทั้งสามบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากประกันสังคมแบบมีนัยสำคัญที่ระดับ 31.7% , 33.2% และ 43.2% ตามลำดับ
ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ให้คำแนะนำกลุ่ม Healthcare เป็น Overweight โดยระบุว่า ประกันสังคมอนุมัติปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเฉลี่ย 9% ใกล้เคียงกับที่คาด โดยบอร์ดประกันสังคมอนุมัติปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเป็น 1,640 บาท จากเดิม 1,500 บาท (+9%) , OPD ภาระการรักษาโรคเรื้อรัง เป็น 453 บาท จากเดิม 447 บาท (+1.3%) และ IPD จากโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง (AdjRW > 2) เป็น 746 บาท จาก 640 บาท (+16%)
ทั้งนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อการประกาศขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวประกันสังคม โดยเฉพาะ AdjRW > 2 ที่ปรับเพิ่ม +16% ยิ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนสมมติฐานที่มองว่าในปี 63 ประกันสังคมจะสามารถจ่าย AdjRW >2 ได้เหมือนเดิมที่ 12,800 บาท และหากสุดท้ายในช่วงปลายปียังมีการปรับลดการจ่ายเงินของ AdjRW >2 เชื่อว่าจะมีผลกระทบน้อยกว่าที่ผ่านมา โรงพยาบาลที่ได้รับประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวได้แก่ BCH, CHG
โดยชอบ BCH เนื่องจากมีฐานผู้ประกันตนสูงที่สุดถึง 8.7 แสนราย จากประกาศประกันสังคมดังกล่าวทำให้ BCH จะมี upside กำไรสุทธิ 63 เพิ่มขึ้นอีก +9% (สูงกว่าผู้ประกอบรายอื่นอย่าง CHG ที่มี upside เพิ่ม +6.3%) เบื้องต้นยังคงประมาณการกำไรสุทธิ BCH ปี 63 ที่ 1,338 ล้านบาท (+20% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน) ยังคงน้ำหนักการลงทุนอุตสาหกรรม “มากกว่าตลาด” หุ้น top pick ได้แก่ BCH ราคาเป้าหมาย 20.00 บาท