โบรกฯ คัด 10 หุ้นเด่น เน้นทยอยสะสมรับ “Dividend” สูง!

บริษัทหลักทรัพย์ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ม.ค.62) โดยมองว่าจากการที่ตลาดยังมีลักษณะเป็น sideway รอปัจจัยใหม่มาหนุน ทำให้การลงทุนในช่วงนี้มีการสลับกลุ่มซื้อขายเก็งกำไรกันบ่อยครั้ง ดังนั้นจึงมาทำการศึกษาว่าหุ้นในกลุ่มใดยังมีราคาปรับขึ้นช้า (laggard) และหุ้นในกลุ่มใดที่ราคาปรับขึ้นไปมากแล้ว เพื่อให้เห็นภาพโอกาสในการทำ sector rotation ในช่วงนี้

โดยกลุ่มที่ปรับตัวได้ดีกว่าตลาดและระดับราคาเข้าใกล้ค่าเฉลี่ย +2s.d. ประกอบไปด้วยกลุ่มไฟฟ้ากลุ่มอิเล็กโทรนิคส์ ปิโตรเคมีและกลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งมีแนวโน้มที่จะถูกขายทำกำไรพักตัวระยะสั้นได้ ในขณะที่กลุ่มที่ระดับราคาอยู่ใกล้ -2s.d.หรือยังคง laggard ตลาดอยู่ประกอบไปด้วยกลุ่มธนาคาร สื่อสาร โรงกลั่น อสังหาฯ นิคมฯ ท่องเที่ยว ค้าปลีก วัสดุก่อสร้าง กองทุนอสังหาฯ & REITs และขนส่ง

อย่างไรก็ตามยังมองว่ากลุ่มธนาคารจะยังมีแรงกดดันระยะสั้นจากความกังวล credit cost และภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลงอยู่ ในขณะที่กลุ่มสื่อสารก็ยังถูกกดดันจากการที่ครม. อนุมัติให้ CAT กับ TOT ควบรวมกิจการกัน ซึ่งจะส่งผลให้การประมูลคลื่น2,600 MHz (5G) อาจมีราคาสูงขึ้นและมีการแข่งขันมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อกลุ่ม นอกเหนือไปจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่กระทบต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 4/19 แล้ว ดังนั้น 2 กลุ่มนี้อาจจะยังไม่ฟื้นตัวในระยะสั้น

ส่วนโรงกลั่นราคาก็ถูกกดดันจากงบไตรมาส 4/19 ที่ไม่ดีและค่าการกลั่นปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำแต่เราแนะนำ ทยอยสะสม TOP SPRC เนื่องจากคาดว่าค่าการกลั่นจะเริ่มฟื้นตัวนับจากเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไปจาก crack spread ของน้ำมันเบนซินและดีเซลที่จะเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่กลุ่มอสังหาฯ นิคมฯ ท่องเที่ยวและค้าปลีก ก็น่าจะทยอยเก็บรอลุ้นรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาหนุนราคาหุ้นได้ แนะนำ ทยอยสะสม AP LH SPALI AMATA WHA AOT CENTEL MINT CPALL HMPRO MAKRO TOP SPRC

 

ขณะที่ แนะนำ Dividend Play : โดยปกติหุ้นที่คาดว่าจะจ่ายเงินปันผลสูงจะเริ่มมีแรงซื้อทยอยสะสมเข้ามาตั้งแต่ต้นปีเพื่อรอการประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. ซึ่งจะช่วยหนุนราคาหุ้นให้ปรับตัวได้ดีกว่าตลาดได้ (outperform) จึงได้มีการคัดเลือกหุ้นที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงมาเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้ ทยอยสะสมในช่วงนี้

โดยหุ้นดังกล่าวประกอบไปด้วย JASIF (2019 9.7%, 2020 10%), PSH (2019 9.6%, 2020 9.9%), MC (2019 7.5%, 2020 7.7%), QH (2019 7.2%, 2020 7.9%), KKP (2019 7.4%, 2020 7.4%), LH (2019 7.0%, 2020 6.4%),DIF (2019 6.3%, 2020 6.3%), SPALI (2019 5.6%, 2020 6.1%), TVO (2019 5.5%, 2020 6.4%) และ AP (2019 5.2%, 2020 5.8%)

ด้าน Earning growth Play : สำหรับหุ้นที่ CGS-CIMB คาดว่าจะมีกำไรเติบโตสูงในปี 2020 หรือ turnaround ของผลกำไรได้ดีที่เราแนะนำ ซื้อประกอบไปด้วย SPRC คาดกำไรเติบโต 273% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน (พลิกจากขาดทุนปีก่อนมาเป็นกำไร) โดยเราให้ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท, TOP คาดกำไรเติบโต 181% ให้ราคาเป้าหมาย 79 บาท, PLANB คาดกำไรเติบโต 32% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ให้ราคาเป้าหมาย 11 บาท, WHA คาดกำไรเติบโต 30% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน ให้ราคาเป้าหมาย 5.38 บาท, MTC คาดกำไรเติบโต 29% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ให้ราคาเป้าหมาย 71 บาท, CBG คาดกำไรเติบโต 28% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ให้ราคาเป้าหมาย 113บาท, NETBAY คาดกำไรเติบโต 22% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ให้ราคาเป้าหมาย 35.70 บาทและ VGI คาดกำไรเติบโต 21% จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน  ให้ราคาเป้าหมาย 11 บาท