“อนุทิน” มั่นใจเอาอยู่! แม้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อ “ไวรัสโคโรนา” ในไทยแตะ 8 ราย

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ที่มีต้นกำเนิดที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ขณะนี้พบผู้ป่วยในไทยทั้งสิ้น 8 คน 100% สามารถรักษาได้ บางส่วนปลอดเชื้อ ก็ให้กลับบ้าน ส่วนที่เหลืออาการดีขึ้นตามลำดับ

ขณะที่ความรุนแรงของการระบาด หลักสากลแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งแต่ละระดับจะหมายถึงมาตรการการจัดการที่เข้มข้นขึ้น ได้แก่ระดับที่ 1.พบผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ 2.พบผู้ป่วย และการติดเชื้อนั้น เกิดขึ้นหรืออุบัติขณะที่อยู่ต่างประเทศ ระดับที่ 3 พบผู้ป่วย และการติดเชื้อนั้น เกิดขึ้นขณะที่อยู่ในประเทศ ระดับที่ 4. พบผู้ป่วย โดยติดต่อจากคนสู่คนในประเทศ และระดับที่ 5 พบผู้ป่วย โดยติดต่อจากคนสู่คนระหว่างประเทศ ซึ่งในส่วนของประเทศไทย ความรุนแรงอยู่ในระดับ 1-2 แต่หากความรุนแรงเพิ่มขึ้น ก็พร้อมหารือกับองค์การอนามัยโลก ผู้บริหารในกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อยกระดับแผนการรับมือต่อไป ขอให้มั่นใจว่าตอนนี้สามารถคุมสถานการณ์ได้

สำหรับโอกาสที่จะพบผู้ติดเชื้อในไทยเพิ่มเติมนั้น คาดว่าจะลดน้อยลง เนื่องจากการพบผู้ติดเชื้อทั้งหมดต่างเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ขณะที่ปัจจุบันไม่มีเที่ยวบินมาจากเมืองอู่ฮั่นแล้ว และทางการจีนได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวจีนที่เดินทางกับคณะทัวร์เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ประกอบกับทางการไทยมีประสิทธิภาพที่ดีในการตรวจคัดกรองเรื่องดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่มีรายงานการอุบัติของโรค เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ทางกระทรวงสาธารณสุขเริ่มทำงานทันที โดยลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของระบบคัดกรองผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิ และเริ่มต้นคัดกรองอย่างเข้มงวด  สำหรับประเทศไทย เคยผ่านสถานการณ์แบบนี้ และมีประสบการณ์ที่ได้ปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันไปแล้ว

“ที่เราพบมาก ก็เพราะเราตรวจละเอียด ซึ่งได้ประสานกับผู้บริหารขององค์การอนามัยโลก และผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุขมาตลอดว่าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ควรทำอย่างไร และเราก็ทำตามคำแนะนำนั้นอย่างเคร่งครัด หากองค์การอนามัยโลก และทีมผู้บริหารของกระทรวงเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ร้ายแรง ต้องปรับมาตรการ ก็พร้อมปรับ แต่มาตรการที่ใช้อยู่ตอนนี้ เหมาะสมดีแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อปัญหานี้เช่นกัน ส่วนตัวเป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลกำกับ 3 กระทรวงแนวหน้าที่จะต้องรับมือกับไวรัสคือ กระทรวงสาธารณสุข ต้องดูแลเรื่องการควบคุมและรักษา กระทรวงคมนาคม ต้องดูแลเรื่องจัดการผู้โดยสาร เพื่อให้ง่ายต่อการคัดกรอง และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ต้องประสานกับผู้ประกอบกิจการห้องพัก ทัวร์ ไปจนถึงนักท่องเที่ยว เพื่อให้เข้าใจเรื่องการปฏิบัติตัว หากมีผู้ป่วยสำแดงอาการ หรือมีความเสี่ยง จะได้ควบคุมสถานการณ์อย่างทันท่วงที

โดยมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ หากพบผู้ต้องสงสัยว่าจะมีเชื้อไม่ว่าจะมาทางไหน ก็จะส่งเข้าสถาบันบำราศนราดูร เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อยู่ในร่างกายหรือไม่ การรักษาจะอยู่ในห้องคุมความดัน รับรองว่าเชื้อไวรัสออกจากห้องไม่ได้ ขณะที่ตามต่างจังหวัด ก็ได้เตรียมสถานที่สำหรับการรักษาควบคุมไว้แล้วเช่นกัน

ด้านกระทรวงสาธารณสุข ออกเอกสารเผยแพร่ถึงสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ถึงวันที่ 26 ม.ค.63 ว่า พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศจำนวน 8 ราย ในส่วนนี้กลับบ้านแล้ว 5 ราย ส่วนอีก 3 ราย ยังนอนโรงพยาบาล โดยไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย

ขณะที่มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 84 ราย คัดกรองจากสนามบิน 24 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 60 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 45 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 39 ราย