หุ้น “สายการบิน-โรงแรม” ร่วงหนัก! เซ่นวิกฤต “โคโรนา” ระบาดหนักฉุดตัวเลขนักท่องเที่ยวลดฮวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10.31 น. ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW อยู่ที่ระดับ 4.38 บาท ลบ 0.32 บาท หรือ 6.81% สูงสุดที่ระดับ 4.44 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60.07 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT อยู่ที่ระดับ 31 บาท ลบ 2.50 บาท หรือ 7.46% สูงสุดที่ระดับ 31.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264.86 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL อยู่ที่ระดับ 21 บาท ลบ 1.20 บาท หรือ 5.41% สูงสุดที่ระดับ 21.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52.30 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT อยู่ที่ 69 บาท ลบ 2.50 บาท หรือ 3.50% สูงสุดที่ 69.25 บาท ต่ำสุดที่ 67.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.61 พันล้านบาท

ราคาหุ้นบริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV อยู่ที่ 1.83 บาท ลบ 0.10 บาท หรือ 5.18% สูงสุดที่ 1.84 บาท ต่ำสุดที่ 1.77 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 21.88 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI อยู่ที่ 6 บาท ลบ 0.15 บาท หรือ 2.44% สูงสุดที่ 6.05 บาท ต่ำสุดที่ 5.95 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 4.22 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA อยู่ที่ 5.80 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 4.13% สูงสุดที่ 6 บาท ต่ำสุดที่ 5.80 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 2.30 ล้านบาท

ราคาหุ้น บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK อยู่ที่ 1.95 บาท ลบ 0.05 บาท หรือ 2.50% สูงสุดที่ 2 บาท ต่ำสุดที่1.95 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 0.75 ล้านบาท

โดยนักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “หลีกเลี่ยง” หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน จากการระบาดไวรัสโคโรนาที่ยังน่ากังวล เนื่องจากการระบาดโรคนี้ค่อนข้างง่าย และปัจจุบันผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง ด้านราคาหุ้นปรับตัวลงแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาระหว่างคนสู่คน

อย่างไรก็ตาม จาก sensitivity analysis พบว่าราคาหุ้น AAV, THAI, ERW และ MINT ยังมีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก ส่วน AOT มี downside ค่อนข้างจำกัด

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ณ ปัจจุบันผลกระทบเป็นลบมากกว่าที่เคยคาด ประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือน ก.พ.63 อาจติดลบมากถึง -70% จากปีก่อน ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนคิดเป็นสัดส่วนสูงสุดถึง 28% จากจำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวม ซึ่งประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 63 ที่ 11.4 ล้านคน หรือคิดเป็นเฉลี่ย 9.5 แสนคน/เดือน

ทั้งนี้ สมาคมธุรกิจไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ประเมินสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 50% มาจากกรุ๊ปทัวร์จีน ซึ่งจะหายไปเลย ขณะที่กลุ่มที่เดินทางมาเอง ไม่ว่าจะมาเยี่ยมญาติ มาเที่ยวกันเอง หรือเป็นนักศึกษา ก็คงหายไปส่วนหนึ่ง โดยรวมคาดว่าจะหายไป 70%  และคาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 เดือนจึงจะปรับตัวสู่ระดับปกติ โดยประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนปี 63 อาจปรับลดลงเหลือราว 10 ล้านคน -10% จากปีก่อน

โดยกรณีดังกล่าวเป็นลบต่อกำไร AAV, THAI และ ERW มากสุด ส่วน AOT คาดกระทบน้อยกว่า โดยได้ทำการประเมินผลกระทบต่อกำไรสุทธิหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน ให้สมมติฐานที่ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลง -70% เป็นระยะเวลา 1 เดือน (จากกรุ๊ปทัวร์ 50% และเดินทางมาเอง 20%) พบว่าหุ้นในกลุ่มสายการบินจะได้รับผลกระทบมากสุด (หักต้นทุนน้ำมันแล้ว)

ขณะที่หุ้น AAV จะได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนสูงถึง 30% ประเมินส่งผลกำไรลดลง203 ล้านบาท/เดือน คิดเป็นลดลง 53% จากกำไรปี 63 ที่ 379 ล้านบาท ส่วน THAI ประเมินว่าจะส่งผลกำไรลดลง 403 ล้านบาท/เดือน จากปี 63 ที่ประเมินจะขาดทุนสุทธิ 7.5 พันล้านบาท และหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบมากสุด ได้แก่ ERW จะส่งผลต่อกำไรลดลง 38 ล้านบาท/เดือน คิดเป็นลดลง 8% จากประมานการกำไรทั้งปี 63

ด้าน CENTEL จะส่งผลต่อกำไรลดลง 95 ล้านบาท/เดือน คิดเป็นลดลง 6% จากกำไรทั้งปี และ MINT จะส่งผลต่อกำไรลดลง 353 ล้านบาท/เดือน คิดเป็นลดลง 5% จากกำไรทั้งปี (ยังไม่รวมผลกระทบจากการลดลงของรายได้จากต่างประเทศจากปัจจัยเดียวกัน) ขณะที่คาดว่า AOT จะได้รับผลกระทบน้อยราว 282 ล้านบาท/เดือน คิดเป็นลดลง 1% จากกำไรทั้งปี เนื่องจาก AOT มีสัดส่วนรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ค่อนข้างมากราว 28% ของรายได้รวม