ไวรัสโคโรนา! ฉุด SET รูดหนัก โบรกฯชูเคาะ 16 หุ้นเด่นหลุมหลบภัย เน้นกลุ่มรพ.-ปันผลสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วง 37 จุด  โดย ณ เวลา 10.47 น. อยู่ที่ระดับ 1,531.76 จุด ลบ 37.79 จุด หรือ 2.41% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 23,648.26 ล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับลงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ดังนั้นทีมข่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จึงทำการรวบรวมกลุ่มหุ้นหลุมหลบภัยเหมาะสำหรับภาวะตลาดผันผวนมานำเสนอ โดนเน้นไปที่กลุ่มโรงพยาบาลได้อานิสงส์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนารวมถึงค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสูงของไทย และกลุ่ม Defensive และมีปันผลสูง BDMS,BH,BCH,CHG,GPSC,GULF,JMT,CPF,SAWAD, MTC,BTS,BEM,INTUCH, ADVANC,OSP,CBGตามบทวิเคราะห์ดังนี้

บล.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(27ม.ค.63) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นลบคาด SET Index ปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 1,550 – 1,555 จุด จากความกังวลเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เร่งตัวขึ้นและกำลังแพร่ระบาดไปหลายประเทศโดยล่าสุดมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 80 ราย และผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2,744 ราย

ซึ่งจีนได้ประกาศขยายวันหยุดตรุษจีนออกไปแบบไม่มีกำหนดรวมถึงสั่งห้ามคณะทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศและการขายแพ็กเกจเที่ยวบิน โรงแรมสำหรับชาวจีนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงแรงต่ำกว่า 53 US/barrel ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน ดังนั้นคาดว่านักลงทุนจะยังคงอยู่ในภาวะ Risk off ซึ่งสะท้อนจาก US Bond yield 10 ปี ปรับตัวลงและราคาทองคำดีดตัวขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy เน้นหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะตัว

– กลุ่มส่งออก Elec  ( KCE HANA DELTA )  Food ( CPF TFG TU ) อานิสงส์ทิศทางเงินบาทอ่อนค่าลง

– กลุ่มรพ. BDMS, BH, BCH, CHG ได้อานิสงส์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนารวมถึงค่าฝุ่น PM 2.5 ระดับสูงของไทย

– กลุ่ม Defensive และงบไตรมาส 4/62 คาดว่าจะออกมาดีและดีต่อเนื่องในปีนี้ GPSC, GULF, JMT, CPF, SAWAD, MTC, BTS, BEM, INTUCH, ADVANC , OSP ,CBG

** ระวังกลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน และค้าปลีก จากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัสแนวโน้ม ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(27ม.ค.63): คาดว่า SET Index จะยังคงปรับตัวลงในกรอบ 1,555-1565 จุดจากบรรยากาศการลงทุนที่ยังค่อนข้างเป็นลบหลังการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสยังคงกระจายและขยายวงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จีนออกมาตรการระงับการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ชั่วคราวซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยใน 1H20

ขณะที่ปัจจัยในประเทศต้องติดตามว่าพ.ร.บ.งบประมาณ 2563 จะโมฆะหรือไม่จากกรณีเสียบบัตรแทนกันซึ่งกระทบในแง่ของความล่าช้าในการเบิกจ่าย ขณะที่ทิศทางกำไรไตรมาส 4/63 ของบริษัทจดทะเบียนคาดอยู่ในทิศทางไม่สดใส เรายังแนะนำให้ถือเงินสดรอตลาดอ่อนตัวหลังจากแนะนำให้ทำกำไรระยะสั้นไปแล้วบริเวณ 1,600 จุด ขณะที่พอร์ตหลักยังเน้นถือหุ้นพื้นฐานที่มีธุรกิจ Recurring Defensive และปันผลสูง

กลยุทธ์ : ยังเน้นถือหุ้นพื้นฐานที่มีธุรกิจ Recurring Defensive และปันผลสูง