“ศักดิ์สยาม” เล็งใช้เกณฑ์ TIA พัฒนาระบบขนส่ง-โครงการก่อสร้างปลดล็อกปัญหาจราจร

“ศักดิ์สยาม” เล็งใช้เทคโนโลยี-เกณฑ์ TIA พัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง-โครงการก่อสร้าง หวังปลดล็อกปัญหาจราจร


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ว่า  สนข.มีแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ในการพัฒนาระบบขนส่งโลจิสติกส์ ทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งได้ให้ข้อสังเกตในเรื่องการวางแผนงานอนาคต การคาดการณ์ข้อมูลในอนาคตที่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ ใช้เทคโนโลยี และการสร้างความเข้าใจกับประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมทั้งกำหนดค่าตัวชี้วัด (KPI) ที่ชัดเจน และสามารถอธิบายผลกระทบที่ประชาชนจะได้รับ รวมถึงผลตอบแทนให้เป็นรูปธรรมด้วย

นอกจากนี้ ได้เน้นให้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการวางแผนด้านคมนาคม บริหารจัดการ และวางแผนด้านจราจร รวมไปถึงด้านการก่อสร้าง เช่น โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ (UAV) ซึ่ง สนข.ได้ศึกษาร่วมกับกองทัพอากาศ โดยจะทำ MOU ร่วมกัน ซึ่งขอให้เร่งรัดเพื่อทยอยนำมาใช้ในการวางแผนด้านจราจรให้ทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีข้อมูลที่ Real Time สำหรับตัดสินใจเลือกการเดินทางได้

สำหรับการก่อสร้างโครงการต่างๆที่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดปัญหาการจราจรนั้น สนข.ได้ศึกษาเพื่อจัดทำมาตรฐานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านการจราจร (Traffic Impact Assessment : TIA) ประกอบการพิจารณาอนุมัติโครงการต่างๆ เพื่อให้ผู้ดำเนินโครงการวางแผนการจัดการด้านจราจรควบคู่กับแผนการก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบัน TIA มีอยู่แล้ว แต่ยังไม่เป็นระบบและหลักวิชาการที่ชัดเจน โดยให้ สนข.สรุปการศึกษา และนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) พิจารณาภายใน 3-6 เดือน ส่วนหน่วยงานที่จะดูแลนั้นจะมีการพิจารณาต่อไป

“หลักการเรื่อง TIA จะ มีการกำหนดนิยามว่า โครงการประเภทใดเข้าข่ายต้องทำ ใช้เวลาในการพิจารณาแค่ไหน โดยคำนึงถึงผลกระทบด้านจราจร เช่น กรณีการก่อสร้างอาคาร และมีอาคารจอดรถด้วย แต่ไม่ได้คิดว่ารถจำนวนมากเหล่านั้น จะเข้า-ออกและลงสู่ถนนอย่างไร ดังนั้น ต้องเสนอวิธีการบริหารจัดการจราจรในการขออนุญาตด้วย ซึ่งไม่ได้เป็นการกดดันใดๆ เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทุกวันนี้ ก่อนขออนุมัติก็มีการพิจารณาประเด็นเหล่านี้อยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะยังไม่เป็นระบบ หรือยังไม่สมบูรณ์หรือละเอียดมากพอ” นายศักดิ์สยาม ระบุ

ส่วนความคืบหน้านโยบายที่ได้มอบหมายไว้เมื่อเข้ารับตำแหน่ง รมว.คมนาคม ได้แก่ การกำหนดความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. บนถนนตั้งแต่ 4 ช่องจราจรขึ้นไป ซึ่งล่าสุดมีประเด็นที่จะห้ามรถความเร็วต่ำกว่า 90 กม./ชม. หรือ Low Speed วิ่งเลนขวา ซึ่งเรื่องนี้จะต้องทำการศึกษาเพิ่มเติม , การปรับเวลาวิ่งรถบรรทุก 10 ล้อ และนโยบายเรื่องตั๋วร่วม ซึ่งได้รับรายงานความก้าวหน้าว่าอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของระบบรถไฟฟ้า เพื่อให้สามารถอ่านบัตรแบบข้ามระบบกันได้ ซึ่งปัจจุบันมีบัตรโดยสารกว่า 14-15 ล้านใบ

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้จัดทำกรอบเวลาในการดำเนินงานให้ชัดเจน โดยบางเรื่องอาจไม่ต้องรอศึกษาจบ 100% หากเห็นว่าสามารถดำเนินการได้ก็ให้ลงมือทำได้เลย

ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สนข. กล่าวว่า แนวคิดของมาตรฐานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านการจราจร (TIA) ไม่ได้เป็นการห้ามก่อสร้างหรือสร้างเงื่อนไขเพิ่ม แต่เป็นการร่วมมือ เป็นการจัดระเบียบ หรือวิธีการผ่านหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการนั้น ๆ ซึ่งในกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม EIA นั้น มีการพิจารณาประเด็นเรื่อง TIA อยู่แล้ว แต่เป็นหัวข้อเล็กที่อาจจะครอบคลุมไม่ถึง

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะไม่เป็นภาระที่ทำให้การก่อสร้างต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นจากเดิม และสอดคล้องกับนโยบายในการส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ หรืออาคารที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า ต้องมีแผนการเดินทางสำหรับประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น เพิ่ม Sky Walk เชื่อมจากอาคารไปยังสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น

 

 

 

Back to top button