“คมนาคม” คาด FAA สหรัฐฯยกระดับมาตรฐานการบินของไทยเป็น Category 1 ภายในปี 63
“คมนาคม” คาด FAA สหรัฐฯยกระดับมาตรฐานการบินของไทยเป็น Category 1 ภายในปี 63
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 1/2563 ว่า สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้รายงานผลการร่วมประชุมภายใต้โครงการ Technical Assistance กับ สำนักงานบริหารองค์กรการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration : FAA) ซึ่งมีผลดี และคาดว่าจะสามารถทำการแก้ไขข้อบกพร่องต่อ FAA และปรับมาตรฐานจากระดับ 2 (Category 2) เป็นมาตรฐานระดับ 1 (Category 1) ภายในปี 63
โดยให้กพท.จัดทำตารางเวลา หรือไทม์ไลน์ในการดำเนินงานให้ชัดเจน ซึ่งมีข้อเรื่องที่ต้องปรับปรุงจำนวน 26 ข้อ โดยแก้ไขเสร็จแล้ว 11 ข้อ ส่วนอีก 10 ข้อ กพท.รายงานว่า อยู่ระหว่างดำเนินการและจะเสร็จได้ทันเวลา
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติการแก้ไขปรับปรุงแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 พ.ศ. 2561 และแก้ไขปรับปรุงแผนอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ซึ่ง กพท. จะได้นำเสนอร่างประกาศคณะกรรมการการบินพลเรือน เรื่อง แผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ พ.ศ. 2563 พร้อมทั้งแผนรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือนแห่งชาติ ฉบับแก้ไขครั้งที่ 2 พ.ศ. 2563 และแผนอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติ พ.ศ. 2563 พร้อมทั้งแผนอำนวยความสะดวกในการบินพลเรือนแห่งชาติ ฉบับแก้ไขครั้งที่ 1 พ.ศ. 2563 ให้ รมว.คมนาคมลงนามในประกาศฯ เพื่อประกาศใช้แผนฯ ต่อไป
ทั้งนี้ การแก้ไขแผนฯ ดังกล่าว เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และเตรียมความพร้อมรับการตรวจสอบจาก ICAO ระหว่างวันที่ 11-21 ก.พ.63
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ที่ประชุม กบร.ได้หารือถึงการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยมีมติมอบให้ กพท.โดยนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.เป็นผู้ประสานงานอย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมาย และมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลบางเรื่องที่จะต้องดำเนินการนั้นอาจจะไม่สามารถเปิดเผยต่อออกมาได้หมด
นอกจากนี้ได้กำชับในมาตรการเฝ้าระวัง กับทุกสายการบินที่มีเที่ยวบินเข้าออกประเทศไทยและทุกสนามบินให้รับทราบ หากพบผู้ที่มีความเสี่ยงหรือมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อให้ปฏิบัติตามวิธีการและหลักเกณฑ์ กพท.กำหนด และให้บูรณาการกับทุกหน่วยงาน เช่น กระทรวงสาธารณสุข กรมแพทย์ทหาร เพื่อเข้ามาช่วยกันดูแลป้องกัน