สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2563
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 5 ก.พ. 2563
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า นักวิทยาศาสตร์ของจีนและอังกฤษสามารถคิดค้นยาและวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,290.85 จุด พุ่งขึ้น 483.22 จุด หรือ +1.68% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,334.69 จุด เพิ่มขึ้น 37.10 จุด หรือ +1.13% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,508.68 จุด เพิ่มขึ้น 40.71 จุด หรือ +0.43%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการรายงานผลประกอบการที่สดใสของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในยุโรป และนักลงทุนขานรับข่าวความคืบหน้าในการคิดค้นยารักษาอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.23% ปิดที่ 423.62 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,985.40 จุด เพิ่มขึ้น 50.35 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,478.33 จุด เพิ่มขึ้น 196.59 จุด หรือ +1.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,482.48 จุด เพิ่มขึ้น 42.66 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานข่าวที่ว่า นักวิทยาศาสตร์สามารถคิดค้นยารักษาอาการป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้แล้ว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,482.48 จุด เพิ่มขึ้น 42.66 จุด หรือ +0.57%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมั่นกลั่นปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนา หลังจากมีรายงานว่านักวิทยาศาสตร์ของจีนและอังกฤษสามารถคิดค้นยาและวัคซีนต้านเชื้อไวรัสดังกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 50.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือเกือบ 2.5% ปิดที่ 55.28 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักถึง 1.7% ในวันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกในตลาด และส่งผลให้สัญญาทองคำปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,562.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 4.1 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 17.602 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 21 ดอลลาร์ หรือ 2.17% ปิดที่ 987.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 8.90 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 2,326.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ก.พ.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.83 เยน จากระดับ 109.49 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9738 ฟรังก์ จากระดับ 0.9696 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3293 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3283 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0996 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1042 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2990 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3037 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.6745 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6736 ดอลลาร์สหรัฐ