ดอลล์แข็งค่าฉุดราคาน้ำมันดิบปิดลบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐร่วงลงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 27 เซนต์ ปิดวานนี้ (30 ก.ค.) ที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 53.31 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลบเนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนั้น มาจากรายงานที่ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ ขยายตัว 2.3% ซึ่งดีกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัวเพียง 0.6% เนื่องจากยอดส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากรายงานของ EIA ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วงลง 4.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 459.7 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ในระดับทรงตัว ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน ลดลง 212,000 บาร์เรล สู่ระดับ 57.7 ล้านบาร์เรล