สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ก.พ. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 10 ก.พ. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮ โดยได้แรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของจีนเริ่มกลับมาดำเนินการตามปกติเมื่อวานนี้ รวมทั้งรายงานที่ว่า ธนาคารกลางและรัฐบาลจีนได้ประกาศอัดฉีดเงินทุนให้กับภาคเอกชนเพื่อลดผลกระทบของไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,276.82 จุด เพิ่มขึ้น 174.31 จุด หรือ +0.60% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,352.09 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.73% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,628.39 จุด เพิ่มขึ้น 107.88 จุด หรือ +1.13%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นไอร์แลนด์ร่วงลงรับข่าว พรรค Sinn Fein ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้ายชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารของไอร์แลนด์ร่วงลงจากความวิตกเกี่ยวกับนโยบายของพรรคดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการยุติการลดหย่อนภาษีสำหรับภาคธนาคาร

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,015.67 จุด ลดลง 14.08 จุด หรือ -0.23%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,494.03 จุด ลดลง 19.78 จุด หรือ -0.15% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,446.88 จุด ลดลง 19.82 จุด หรือ -0.27%

ส่วนดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นเล็กน้อย 0.07% ปิดที่ 424.64 จุด

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพของชาวอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,446.88 จุด ลดลง 19.82 จุด หรือ -0.27%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในขณะนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 6.1 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,579.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 17.785 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 966.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ทะยานขึ้น 39.60 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 2,249.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงหลุดจากระดับ 50 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการที่รัสเซียยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อข้อเสนอที่ให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร ปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มเติม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 49.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 53.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ก.พ.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ของเยอรมนีทรุดตัวลงหนักสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่มีรายงานว่าภาคการผลิตของอิตาลีร่วงลงในเดือนธ.ค.เช่นกัน

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0914 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0946 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2915 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2887 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6679 ดอลลาร์ จากระดับ 0.6676 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.69 เยน จากระดับ 109.73 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9769 ฟรังก์ จากระดับ 0.9773 ฟรังก์ แต่หากเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3318 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3299 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button