“ชวน” มั่นใจ! โหวตร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 รอบสองไร้ปัญหาเสียบบัตรแทนซ้ำรอย!
“ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร มั่นใจ! โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 63 รอบสอง ไร้ปัญหาเสียบบัตรแทน ซ้ำรอย!
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ในรอบที่ 2 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า กระบวนการในวันนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่วาระ 2 โดยจะเป็นการพิจารณารายมาตราใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีสมาชิกคนใดแสดงความประสงค์จะอภิปราย ซึ่งเป็นสิทธิ์ของสมาชิกที่จะอภิปรายหรือไม่อภิปรายก็ได้ แต่หากไม่อภิปรายซ้ำ ก็จะทำให้การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นไปด้วยความรวดเร็ว พร้อมกันนี้ ยังมั่นใจว่าการลงมติในวันนี้ จะไม่มีปัญหาการเสียบบัตรแทนกันเกิดขึ้นอีก เพราะถือว่าได้รับบทเรียนที่ร้ายแรงไปแล้ว
สำหรับการตรวจสอบสมาชิกที่มีข้อกล่าวหาว่าเสียบบัตรแทนกันนั้น นายชวน ยืนยันว่า สภาผู้แทนราษฎรจะเดินหน้าตรวจสอบทุกกรณี เพราะสภาต้องรับผิดชอบ โดยเบื้องต้นได้รับการตรวจสอบแล้ว 2 คนแรกที่ถูกร้อง ซึ่งคนหนึ่งยอมรับว่าไม่ได้อยู่ในที่ประชุมจริง แต่กลับมีการลงมติ ส่วนอีกคนยังไม่ชัดเจนว่าเข้าร่วมประชุมหรือไม่
โดยขณะนี้มีการสอบพยานไปถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน ซึ่งได้ประสานไปยังทางท่าการท่าอากาศยาน เพื่อมาเทียบกับเวลาในการลงมติในสภา รวมถึงตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทั้งผลการลงมติและภาพจากกล้องวงจรปิดในสภาด้วย ส่วนการดำเนินคดีอาญากับผู้ที่กระทำความผิดนั้น ขณะนี้ต้องรวบรวมข้อเท็จจริงทั้งหมดก่อนที่จะไปถึงขั้นนั้น
ขณะที่เช้าวันนี้ (13 ก.พ.63) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ทบทวนการลงมติวาระที่ 2 และ 3 อีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 114 ที่บัญญัติว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมายหรือความครอบงำใดๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความชื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชน โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์
เนื่องจากการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ในครั้งก่อน มีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติแทน ย่อมมีผลเป็นการออกเสียงลงคะแนนไม่สุจริต ไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม และไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้
อีกทั้งเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจจะอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 74 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีศักดิ์ต่ำกว่าบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 148 วรรคสาม มาออกคำบังคับให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการให้ถูกต้องเฉพาะวาระที่ 2 และ 3
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันว่า จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับการพิจารณาลงมติวาระที่ 2 และ 3 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องทำหน้าที่เข้าร่วมประชุม แต่จะอภิปรายหรือลงมติออกเสียงหรือไม่ออกเสียงก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละคน แต่อย่าให้มีการเสียบบัตรแทนกัน และขอให้สภาผู้แทนราษฎรเร่งดำเนินการเรื่องนี้