สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ก.พ. 2563

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังจากจีนเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนเกณฑ์ในการนับจำนวนผู้ติดเชื้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,423.31 จุด ลดลง 128.11 จุด หรือ -0.43% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,373.94 จุด ลดลง 5.51 จุด หรือ -0.16% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,711.97 จุด ลดลง 13.99 จุด หรือ -0.14%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนกลับมาวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 อีกครั้ง หลังทางการจีนเปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.02% ปิดที่ 431.08 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,093.14 จุด ลดลง 11.58 จุด หรือ -0.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,745.43 จุด ลดลง 4.35 จุด หรือ -0.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.03 จุด ลดลง 82.34 จุด หรือ -1.09%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นก่อนอังกฤษเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายในเดือนหน้าซึ่งคาดว่าจะมีการใช้จ่ายด้านต่างๆ จำนวนมาก นอกจากนี้ นักลงทุนยังกลับมาวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 อีกครั้ง หลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นในมณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.03 จุด ลดลง 82.34 จุด หรือ -1.09%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร จะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อพยุงราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงจากความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 51.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ 1,578.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 17.619 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 974.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 28.50 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 2,351 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) หลังจากจีนเปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งขึ้นอย่างมาก โดยมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนเกณฑ์ในการนับจำนวนผู้ติดเชื้อ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0842 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0868 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.3053 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2958 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6724 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6735 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.82 เยน จากระดับ 110.08 เยน แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9792 ฟรังก์ จากระดับ 0.9783 ฟรังก์ และแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3260 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3259 ดอลลาร์แคนาดา