PTT เผยกำไรปี 62 ขยับลง 22% มาที่ 9.3 หมื่นลบ. หลังรายได้ลด-หนี้สินเพิ่ม

PTT เผยกำไรปี 62 ขยับลง 22% มาที่ 9.3 หมื่นลบ. จากปีก่อนกำไร 1.2 แสนลบ. หลังรายได้ลด-หนี้สินเพิ่ม


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2562 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานประจำปี 2562 มีกำไรลดลง เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายจำนวน 2,219,739 ล้านบาท ลดลง 116,416 ล้านบาท หรือ 5% จากปี 2561 โดยหลักลดลงจากธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจน้ำมันลดลง จากราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ แม้ว่าจะมีรานได้ขายเพิ่มขึ้นจากธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรม (GPSC เข้าซื้อ GLOW) ธุรกิจสำรวจและผลิตฯ (จากปิมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนเพิ่มในโครงการบงกช การเข้าซื้อ Muphy และ Partex ในปี 2562 และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น) รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยหลักจากธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ (ปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น)

อีกทั้งในปี 2562 EBITDA จ่านวน 288,972 ล้านบาท ลดลง 62,424 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.8 จาก 351,396 ล้านบาท ในปี 2561 สาเหตุหลักจากผลการด่าเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นปรับลดลงตามส่วนต่างราคาที่ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ทั้งปิโตรเลียมและปิโตรเคมีแม้ว่าในปี 2562 มีก่าไรจากสต๊อกน้่ามันประมาณ 2,800 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2561 มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันประมาณ 6,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากราคาน้่ามันดิบในปี 2562 มีความผันผวนน้อยกว่าปี 2561เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีผลการด่าเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ตามก่าไรขั้นต้นที่ลดลงจากราคาขายตามราคาอ้างอิงปิโตรเคมีที่ปรับลดลงมาก ในขณะที่ต้นทุนก๊าซฯ ปรับสูงขึ้น

อย่างไรก็ดีกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่มีผลการด่าเนินงานดีขึ้นโดยหลักจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 และผลการด่าเนินงานของธุรกิจส่ารวจและผลิตฯ ปรับเพิ่มขึ้นตามรายได้ขายที่เพิ่มขึ้นตามกล่าวข้างต้น

ขณะที่ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจ่าหน่ายในปี 2562 มีจ่านวน 133,204 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,611 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.8 จาก 123,593 ล้านบาท ในปี 2561โดยหลักจากธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC และธุรกิจส่ารวจและผลิตฯ จากการเข้าซื้อสัดส่วนลงทุนเพิ่มในโครงการบงกช (เพิ่มร้อยละ 22.2) และโครงการ Murphy ในประเทศมาเลเซีย และ Partex

นอกจากนี้ ในปี 2562 มีส่วนแบ่งก่าไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมจ่านวน 6,008 ล้านบาท ลดลง 2,507 ล้านบาท หรือร้อยละ 29.4จาก 8,515 ล้านบาท ในปี 2561โดยหลักลดลงจาก PTTAC ที่ผลการด่าเนินงานปรับลดลงตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์AN และ MMA ที่ลดลง รวมถึงผลการด่าเนินงานที่ลดลงของ HMC จากเงินปันผลรับและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของ PP ที่ลดลง

สำหรับภาษีเงินได้ ลดลง 20,658 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.5จาก 53,647 ล้านบาท ในปี 2561เป็น 32,989 ล้านบาท ในปี2562โดยหลักมาจากผลการด่าเนินงานโดยรวมของกลุ่ม ปตท. ที่ลดลง และภาษีเงินได้ที่ลดลงของ PTTEP ตามผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากกว่าปีก่อน รวมถึงในปี2561 ปตท. มีค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้สุทธิที่เกี่ยวข้องกับปรับโครงสร้างหน่วยธุรกิจน้ำมัน จำนวน 6,033 ล้านบาท

โดย ณ วันที่ 31ธันวาคม 2562 บริษัทและบริษัทย่อยมีหนี้สินรวมจ่านวน 1,183,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ 31 ธันวาคม 2561 จ่านวน 147,282 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.2 โดยมีสาเหตุหลักมาจากหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 115,334 ล้านบาท หรือร้อยละ 21.2 โดยหลักเป็นผลจากการกู้ยืมของ GPSC เพื่อซื้อกิจการ GLOW รวมถึงเงินกู้ระยะยาวและหุ้นกู้ที่เพิ่มขึ้นของ PTTEP GC และ TOP

นอกจากนี้ยังประกาศจ่ายปันผลจากกำไรสะสมเป็นเงินสด 1.10 บาทต่อหุ้น กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 4 มี.ค.63 และกำหนดจ่ายเงินปันผล 30 เม.ย. 2563

Back to top button